หน้าเว็บ

About Me

แนะนำตัวนิ้ดนึง ^..^

About Me : ชื่อ Pick น่ะค่ะ แต่ว่าหลงใหลในภาษาญี่ปุ่นมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว ก็เลยขอสะกดชื่อเป็นแบบญี่ปุ่นว่า Pickku หรือ Pikku (ピック) เผื่อคนจาได้จำเราได้ ^^

About Blog : บล็อกหน้าตาเรียบๆ ไม่แต่ง ไม่เน้นลูกเล่นไรมาก เน้นพิมพ์อย่างเดียว 555 ใครมาอ่านบล็อกนี้ต้องทำใจ อาจเวียนหัวกะตัวหนังสือยาวเป็นพรืดๆๆ *o*

ที่ผ่านมาก็เอาแต่เขียนรีวิวสกินแคร์ เพราะช่วงนั้นกำลังอินเรื่องบิวตี้ แล้วสมัครบล็อกไว้ไม่รู้จะพิมพ์ไร ก็เลยเขียนเรื่องบิวตี้แทนในตอนนั้น แต่ว่าตอนนี้ไม่มีเวลาบิวตี้ดูแลตัวเองซะเท่าไหร่ จนตอนนี้หน้านี่เป็นอาจุมม่าไปซะแร่ T...T" แต่ก็ยังไม่อยากลบบล็อกเก่าๆ ทิ้งไป ดูจากสถิติแล้วก็ยังมีคนเข้ามาดูอยู่เรื่อยๆ ก็เลยปล่อยเอาไว้อย่างนั้น

ปัจจุบัน

จริงๆ เราตั้งใจอยากจะเขียนบล็อกเกี่ยวกับภาษามาตั้งนานแล้วค่ะ แต่ก็ไม่รู้จะเริ่มยังงัยดีก่อน จะเขียนเกี่ยวกับการสอนก็คงไม่ไหว เราเองก็ไม่ได้เก่งขนาดนั้น เดี๋ยวจะสอนไรไปผิดๆ =...="

ส่วนตัวเราก็ชอบไปอ่านของคนอื่นๆ เหมือนกัน เอามาเป็นแรงบันดาลใจในการเขียน ก็เรยเอาเป็นว่า ขอมาเขียนแชร์ประสบการณ์ แนะนำ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับภาษาที่ตัวเองกำลังให้ความสนใจอยู่ดีกว่า อยากทำอะไรให้มีประโยชน์ สาระบ้าง เป็นการตอบแทนครู พี่ๆ เพื่อนๆ สถาบันที่ได้ให้ความรู้เรามา ^_^

เล่าคร่าวๆ
............
ตอนเด็กๆ เราไม่ชอบอังกฤษเรย เกลียดหมดทุกวิชา ไม่อยากเรียน จะเล่นอย่างเดียว เรยเกือบที่โหล่ของห้องเสมอ

เราก็ไม่รู้ตัวหรอกว่าตอนเด็กๆ เราก็แอบสนใจภาษาอยู่เหมือนกัน คือเท่าที่จำความได้ เราเคยแอบซื้อหนังสือเรียนจีนเด็กๆ มานั่งเขียนตาม แบบมั่วๆ ตามประสา แล้วก็ชอบดูพวกหนังจีนกำลังภายใน ญี่ปุ่นก็ชอบดูน่ะ โดยเฉพาะการ์ตูนจะชอบมาก อย่างโดเรมอน เซเลอร์มูน ชินจังไรงี้ ซื้อเป็นเล่มมาอ่านสะสมไว้เพรียบ ยิ่งเซเลอร์มูนเอามารีเมคทำขายใหม่ ราคาสูงพอควร ก็ยังไปซื้อมาอ่าน lol (มีลงทุนซื้อโดเรมอนเวอร์ชั่นญี่ปุ่น มาลองหัดอ่านด้วยค่ะ แต่ว่าก็ยังอ่านไม่เก่งเท่าไหร่ เปิดดิกตลอด)

พอเข้าเรียนปวช.  มาเจอครูกวดวิชาอังกฤษดี แกทั้งสอนทั้งอธิบายต่อตัว ให้เราเข้าใจพื้นฐานแกรมม่าต่างๆ แล้วพอสอบในห้องคะแนนวิชาอังกฤษก็ดีขึ้นเรื่อยๆ มา รวมถึงตั้งใจเรียนวิชาอื่นๆ พลอยได้ดีไปด้วย ครั้งแรกในชีวิตจริงๆ ที่ได้เกรด 4 ทุกวิชา สร้างความฮือฮาหนักมาก 55 ^^ จากตรงนี้ก็เลยกลายเป็นคนชอบเรียนภาษาไปเรย พอขึ้นปวช.ปี 2 ก็ขอเงินพ่อไปเรียนภาษาญี่ปุ่นที่ สนญ. ในตอนนั้น จริงๆพ่ออยากให้เรียนจีน แต่แกก็ไม่ได้ห้าม อยากเรียนก็ตามใจ

จากนั้น เราก็อดออมเก็บเงินที่ได้มา เจียดมาเป็นค่าเรียนภาษาญี่ปุ่นกะกวดวิชาภาษาอังกฤษ เรียนหลายที่มาก เพราะอยากเอนทราน เลือกไว้ตอนนั้นคืออยากเรียนเอกญี่ปุ่น แต่ดูแล้วคงจะเอนทรานไม่ไหว ก็เรยไปสอบเข้าราชภัฎ ได้เรียนเอกอิ้งค์แทน จริงๆ ก็ดีใจอยู่ที่ติดอิ้งค์ เราคิดว่าตัวเองเรียนได้แหล่ะ เพราะตอนนั้นมั่นใจในความรู้ที่ได้จากกวดวิชามาเยอะ แต่เราก็ตัดสินใจหยุดเรียนญี่ปุ่นไป เพราะไม่พร้อมเรื่องค่าใช้จ่าย

พอเริ่มเรียนเอกอิ้งค์ อยากจะบอกว่ามันไม่ง่ายอย่างที่คิดไว้นัก เพราะไม่ใช่ว่าจะรู้แค่แกรมม่าอย่างเดียว เราต้องเรียนรู้รากฐานภาษาศาสตร์หลายด้านมาก อย่าง สัทศาสตร์ (Phonetics) อรรถศาสตร์ (Semantics) ไรงี้ เรียนวรรณคดี ของไทยก็ไม่รู้เรื่องอยู่แล้ว =__= เจอเข้าไปถึงกะเครียด เปิดดิกแปลแบบมั่วมาก พอขึ้นปี 2 ก็เริ่มท้อค่ะ พอปี 3-4 เราก็เอาแต่ทำงาน Part-time เพราะอยากแบ่งภาระทางบ้านบ้าง ก็เรยทำให้ไม่ตั้งใจเรียนหนัก จนจบมาแบบไม่ค่อยสวยงามเท่าไหร่

พอเข้าทำงาน จนถึงปัจจุบันนี้ ชีวิตก็ทำแต่งานๆๆ ไม่ค่อยได้ทำงานที่ใช้ภาษานัก จนรู้สึกว่าตัวเองชักจะโง่ลงแร่ =__=  ก็เลยต้องพยายามดึงตัวเองกลับไปเป็นนักเรียนใหม่ ก็เรยไปเริ่มเรียนภาษาอังกฤษก่อนที่ BSC เพื่อปลุกภาษาอังกฤษตัวเองให้ตื่นขึ้นอีกครั้ง แต่เรียนไม่กี่คอร์สก็หยุดเรียนมาอ่านเองแทน จากนั้นก็ลองไปเรียนจีนซักคอร์สที่ OCA แล้วก็เริ่มๆอ่านสือทบทวนญี่ปุ่นเองไปด้วย จนพาตัวเองไปสอบ N5 ผ่านมาได้ แล้วก็มาลงเรียนเกาหลีต่อเฉยเรย เพราะว่าเห็นศูนย์เกาหลีให้เรียนฟรีในตอนนั้น ก็เรยหันเหไปเกาหลีต่อ แล้วก็เรียนต่อมาจนจบเลเวล 2 แต่น่าเสียดายว่า เรายังสอบไม่ผ่าน TOPIK กึบ 2 ก็เรยไม่สามารถสมัครเรียนเลเวล 3 ต่อไปได้

แต่พอคิดหลายๆทีแล้วว่า ตอนนี้เราควรหยุดพักก่อน เพราะงานปัจจุบันก็หนักขึ้นมาก เป็นช่วงเริ่มต้น-เปลี่ยนแปลงหลายอย่าง แล้วก็คงไม่จบง่ายๆ เราก็เหนื่อยมากแร่ ถึงบ้านนี่สลบแบบไม่ได้อาบน้ำเรย

ก็เรยคิดว่าพักเรียนซักพักใหญ่ๆ ก็น่าจะดี เพราะเรายังรับผิดชอบแบ่งเวลาเรียน ทบทวนอ่านหนังสือทำการบ้านยังไม่ได้ ชอบมาบ้าระห่ำอ่านตอนจะสอบหรือส่งการบ้านไม่กี่วันทุกที

หลังจากที่ไม่ต้องไปเรียนที่ไหนแล้ว เราก็พยายามจะจัดตาราอ่านหนังสือทวนเรียนเองไปเรื่อยๆก่อนค่ะ ก็อยากจะใช้ทั้ง 3 ภาษา อังกฤษ ญี่ปุ่น เกาหลีนี้ให้ได้ระดับกลางก่อน แล้วจะทำไรต่อก็ว่ากันอีกที อาจจะเรียนจีนใหม่อีกครั้งก็ได้ เพราะเราซื้อหนังสือไว้เยอะมาก ตอนที่ไปเรียนที่ OCA คือบ้าซื้อหนังสือไว้ก่อน

จะว่าไป เราก็รู้สึกว่าเรียนภาษานี่กลายเป็นงานอดิเรกจริงๆ ของเราไปแล้วค่ะ เราไม่ได้รู้สึกเหนื่อยหรือเครียดน่ะ ที่ต้องมานั่งเรียน หรืออ่านหนังสือภาษาแทนนิตยสาร การ์ตูน เรารู้สึกสนุกค่ะ ยิ่งถ้าได้หนังสือที่เขียนสอนดี อ่านเข้าใจ เราก็ยิ่งรู้สึกสนุกมากขึ้น

จนวันๆนึง เราแทบไม่ค่อยจะสนใจสิ่งรอบตัวอะไรเรยค่ะ นอกจากเรียนภาษา อ่านหนังสือเรียน ทำสรุปโน๊ตที่อ่านไป แล้วก็ฟังเพลงต่างประเทศ หรือดูยูทูปพวกมิวสิคเท่านั้น คืออยู่กะภาษาอย่างเดียว จนเหมือนอยู่ตัวคนเดียวไปแซะแร้ว เพื่อนก็ไม่ค่อยมี เหงาๆก็มีหนังสืออ่านเป็นเพื่อนนั่นแหล่ะ

ที่เราอยากจะเรียนรู้ภาษาไปเรื่อยๆนั้น ก็ไม่ใช่แค่เอาไว้พูดสื่อสารกะใคร หรือใช้แต่ในการทำงานแค่นั้น เราก็เอาไปใช้เสพสื่ออื่นๆ จากภาษานั้นได้โดยตรง อย่างเราชอบฟังเพลงมาก ยิ่งถ้าเราฟังแล้วร้องตามได้ อ่านเนื้อออก แปลได้ มันก็เป็นความสุขอย่างนึงที่เราประสบความสำเร็จใช้ภาษานั้นๆได้แร้ว

ดังนั้น ก็เรยเป็นที่มาของการอยากเขียนบล็อก อยากจะแชร์ เล่าเรื่องราวภาษา วิธีเรียนของเรา หรืออะไรที่มันที่น่าสนใจเกี่ยวกับภาษานั้นไปเรื่อยๆค่ะ เพื่อให้เป็นประโยชน์แก่คนที่สนใจ :)

"การเรียนภาษานั้น มันต้องเรียนรู้ไปตลอด รวมทั้งวัฒนธรรมเค้าด้วย...ฉะนั้นเราต้องรัก ต้องชอบ ถือมันเป็นส่วนนึงในชีวิตเรา ใช้มันให้เหมือนอย่างกะภาษาแม่ของเรา แล้วเราจะไม่รู้สึกฝืนใจเลย ลองดูน่ะ! :)..."

ขอบคุณที่แวะมาอ่าน ^_~

ピック +..+

----------------------------------------------