หน้าเว็บ

2.19.2559

ประสบการณ์เรียนที่ Korean Education Center [KEC] ต่อ

ต่อจากบล็อกที่แล้ว ที่ว่าจะเล่าเรื่องการเรียนของที่นี่ว่าเป็นยังงัยบ้าง

ตอนเรียนชั้นต้นของที่นี่ เราเรียนหลักสูตรชั้นต้นธรรมดา 8 เดือน คือเรียนต่อเนื่องยาวเรยค่ะ เรียนตั้งแต่คลาส 1 - 4 คือ 2 เดือนจบ 1 คลาส ก่อนจบจะมีการสอบเลื่อนคลาส ส่วนใหญ่ก็ผ่านกันหมดแหล่ะ ^^ ห้องเราตอนนั้นมี 24 คน ก็อยู่รอดกันมา ประมาณ 18 คนได้ ที่หายๆ ไป คือบางคนไม่พร้อมเรียนต่อ ติดงาน ติดเรียน เรยต้องเลิกไป แอบเสียดายแทน =..=
ส่วนหนังสือเรียนที่นี่ใช้หนังสือเรียนซีรี่ห์ของ 열린 한국어 มีเรียนตัวอักษร 1 เล่ม แล้วก็หนังสือเรียน 열린 한국어 เล่ม 1 กะ 2 เนื้อหาหนังสือเราว่ากำลังดี คือไม่ยาก ค่อยๆ เรียนรู้ทั้งศัพท์ แกรมม่า รูปเยอะ ทำให้จำศัพท์ได้ง่ายขึ้น ตอนที่เราเตรียมตัวสอบ TOPIK 1 เราก็อ่านจากหนังสือเรียนของที่นี่เป็นหลักอ่ะค่ะ อ่านทวนซ้ำทุกหน้า ทุกบรรทัด จนกว่าจะเข้าใจ และจำได้ แล้วก็ฝึกเองทั้งเขียน ทั้งท่องศัพท์ แต่งประโยคไรเอง เอาแกรมม่า ศัพท์ ที่เรียนมาอยู่ในหัวเท่าไหร่ ก็เอาออกมาใช้ให้หมด เพื่อฝึกทักษะการเขียนตัวเองด้วย พอจำได้เข้าใจแล้ว ถึงจะทำสรุปศัพท์ แกรมอย่างกระชับอีกที ตรงนี้เราจะเริ่มพยายามไม่เขียนไทยเรย จะยกรูปประโยคมา พอกลับมาอ่านสรุปอีกทีเราก็เริ่มเข้าใจจำได้ จากนั้นถึงจะไปเรื่องอื่นต่อ แล้วก็กลับมาทวนบ้างเป็นระยะ หนังสือเล่มนี้ถือเป็นหนังสือบุกเบิกของเราเรย อ่านเขียนจนเยิน ก็คิดว่าจะซื้อเล่มต่อไปมาอ่านศึกษาเอง คือมันคุ้นเคยแล้วด้วย
เรื่องการเรียนการสอน ครูที่นี่เป็นคนเกาหลีหมดค่ะ แต่ก็พูดไทยกันได้บ้างไม่ต้องกลัว แต่บางทีก็ไม่เข้าใจบ้างเหมือนกัน 55

ครูห้องเรา แกน่ารัก ใจดีมากๆ ค่ะ แถมแกก็สอนที่อื่นๆ ด้วย ขยันมากกก แกก็สอนตามในหนังสือเรียนแหล่ะค่ะ ก็มียกตัวอย่าง คำศัพท์ แกรมม่าอื่นๆ บ้าง แกก็พยายามอธิบายเกาอย่างง่ายๆ นึกคำไม่ออก แกก็ไทยบ้าง อิ้งค์บ้างก็มี

เวลาเรียนบทใหม่ ครูก็จะพยายามอธิบายแกรม ศัพท์ แล้วก็จะเรียกถาม-ตอบ เรียงกันแทบทุกคน มีให้จับคู่-กลุ่ม แต่งบทสนทนาคุยกันก็มี ดูว่าส่วนใหญ่เข้าใจใช้เป็นมั้ย ก็พอได้ฝึกพูดบ้าง แล้วก็ฝึกเขียนเอาจากแบบฝึกในหนังสือ เราว่าไม่ยาก ถ้าเตรียมตัวอ่านมาก่อนล่วงหน้าน่ะ หลังๆ เราไม่มีเวลา ไม่ได้ทวนเรย แล้วก็ไม่ได้เตรียมล่วงหน้า พอนั่งเรียน ก็ไม่เข้าใจหนักมาก เล่ม 2 บทหลังๆ ศัพท์จะเยอะขึ้น เราจำไม่ได้เรยค่ะ นั่งเรียนแบบมึนๆ ผ่านไป
อ่านหนังสือเตรียมสอบจบชั้นต้น
พอสอบคลาสสุดท้ายที่จะจบรับใบประกาศ เรานี่เครียดเรยค่ะ ต้องสอบทั้งหมดที่เรียนมาตั้งแต่เล่ม 1-2 ก็มีอ่านหนังสือเหนื่อย เล่ม 2 บทหลังๆ เราไม่ได้เรย ทั้งศัพท์ทั้งแกรม พอมาเห็นคะแนนก็แทบจะปาดเหงื่อยยย ที่รู้ว่าผ่านนนนน หวุดหวิด จบจนได้น่ะเรา =...="

มาต่อกันที่ Class Level 2 (เริ่มเรียนเมื่อ 18 ม.ค.59) เราเรียน สัปดาห์ละ 2 วัน จันทร์กะพุธ หลังเลิกงาน เรียนทั้งหมด 6 เดือน ตั้งแต่ ม.ค. - มิ.ย. 59 จำนวน 150 ชม. อ่อ..ลืมบอกอีกอย่าง ที่นี่ส่วนใหญ่เปิดสอนวันธรรดาน่ะค่ะ แต่ก็มีคลาส Level 0 ที่สอนวันเสาร์ด้วย แค่คลาสเดียว แต่อนาคตไม่แน่ใจว่าจะมีมากกว่านี้มั้ย คือก็อยากจะบอกเอาไว้ ก่อนสมัครเรียนที่นี่อ่ะค่ะ เราพร้อมเรียนรึป่าว แล้วก็เวลาเดินทางมาเรียน กลับบ้านด้วย ว่าไหวมั้ย เพราะเรียนตั้งแต่ 6 โมงเย็น ถึง 3 ทุ่ม เลิกก็ดึกอยู่น่ะค่ะ ขนาดเวล 3 ตอนนี้ ยังเรียนตั้ง 3 วัน แน่ะ คิดให้ดีก่อนจะสมัครเรียนน่ะค่ะ ไม่งั้นเรียนไม่ไหวพาลเหนื่อย เลิกเรียนซะก่อน เสียดายแทนคนที่เค้าอยากเรียน แต่ไม่ได้เรียน อีกอย่างศูนย์ก็เริ่มออกกฎใหม่มาด้วยค่ะว่า ถ้าขาดเรียนก็ต้องเขียนใบลา ที่ศูนย์จะมีให้ค่ะ ถ้าขาดมากเกิน ก็อาจจะเรียนไม่ผ่านได้น่ะ ย้ำ! ไปดูความพร้อมของเราให้ดีก่อนค่ะ
หนังสือเรียน 이화 한국어 สำหรับ Level 2
แล้วเรื่องการเรียน Level 2 นี้ สำหรับเราน่ะ อยากจะบอกว่า มันโหดมากกกกขึ้น แล้วก็ความรู้ที่เรียนมาก่อนหน้านี้ในหนังสือของยอริน (열린 한국어) ไม่ต่อเนื่องกัน กะหนังสือใหม่ของ ม.อีฮวา เรารู้สึกว่าเนื้อหาของ ม.อีฮวา เนื้อหาละเอียด ลึก ยากกว่าเยอะ แค่เล่ม 2 มันเยอะกว่าของ ม.โซลกะ เซจงที่เราเคยดูมาซะอีก แล้วแกรมม่าบางตัว เราก็หาอ่านอ้างอิงจากสือ สสท.ไม่ได้ ต้องไปค้นหาในเน็ตเอาแทน ก็เริ่มเครียดหล่ะค่ะ จากชิวๆ เริ่มจะไม่ชิวกันแหล่ะที่นี่ เพราะอ่านไม่ออกแปลแทบไม่ได้ ศัพท์ยาก เยอะขึ้น เนื้อเรื่องอ่านเยอะขึ้น ต้องเพิ่งดิกมือถือแปลตลอด รูปภาพน้อย มีแต่ตัวหนังสือ ขนาดเป็น Ver. Thai ชั้นก็ยังมึน ที่มันแปลออธิบายแปลกๆ อ่ะ +...+
เนื้อหาที่เรียนจาก 이화 2-1
บรรยากาศเรียน Level 2 ครูก็พูดเกาแบบจัดเต็ม มากกว่าคลาสชั้นต้น แกต้องการฝึกให้พวกเราฟังมากๆ แล้วแกรมม่าเรื่องนึง ครูอธิบายยกตัวอย่างนี่เกือบครึ่งชม.ได้ เรานี่นั่งเงิบมึนเรยทีนี้ ขนาดโดนเรียกให้มานั่งเรียนหน้าห้อง ก็ยังไม่เข้าใจ ฟังไม่ออกอ่ะ พูดอาไรตอบไรก็ไม่ออกด้วย เง้อ..ไม่คิดว่ามันยากละเอียดขนาดนี้ มีเครียดๆ...

แต่เราก็พยายามที่จะเรียนรู้ ทบทวนน่ะ ถึงจะเหนื่อยจากงาน เซ็งจิตกะที่ทำงานบ้าง พอมาเรียนก็พยายามตั้งใจเรียนในห้อง ในเมื่อเราเลือกที่จะเข้ามาเรียนแล้ว เราก็ไม่อยากทำเป็นเล่นๆ อยากทำออกมาให้ดีที่สุด ไม่ว่าใครเค้าจะมองว่าเราเรียนไปทำไม เพื่ออะไร จะเอาไปใช้ไร บางทีเราก็ไม่เข้าใจตัวเองน่ะ แต่มันก็เป็นความสุขอีกอย่างนึงที่ทำให้เราใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ได้ความรู้ พัฒนาสมอง ได้เพื่อนใหม่ๆ ส่วนใหญ่วัยทำงานเหมือนกัน เราได้ช่วยเหลือกัน ได้คุยแลกเปลี่ยนกันสนุกดี ^^ หวังว่าที่ทำไป วันข้างหน้ามันน่าจะได้ใช้ประโยชน์บ้าง

แล้วเราก็ได้ลงสมัคร TOPIK I ไปอีกรอบด้วย อยากผ่าน กึบ 2 ให้ได้ คือทำแล้ว ต้องทำให้ดีขึ้นไปอีก! ทีนี้ก็เรยต้องพยายามปรับทัศนคติตัวเองใหม่ ว่าเรากำลังเรียนเพื่อ สอบให้ผ่านกึบ 2 เราต้องผ่านมันให้ได้! >..< อืม.....ปลอบใจตัวเอง

สรุปที่บ่นๆ ไปยาวๆ นั้นถึงเวล 2 มันจะยากขึ้น เราก็ต้องพยายามปรับปรุงตัวเอง ตั้งใจเรียนและทบทวน อ่านเสริมให้หนักมากกว่านี้ ไม่งั้นคงไปต่อไม่รอด =...="

ว่าแล้วก็ขอจบบล็อกนี้ไว้เท่านี้เรยหล่ะกันน่ะค่ะ มีอะไรน่าสนใจจะมาเล่าต่ออีกที ตอนนี้ขอไปเก็บตัวนั่งทบทวนอ่านหนังสือใหม่แต่ต้นก่อนค่ะ เตรียมรับมือสอบ TOPIK I อีกครั้ง มี.ค. 59 นี้ ใครสอบบ้างก็ไปเจอกันได้ค่ะที่ มศว. ^_~

2.18.2559

ประสบการณ์เรียนที่ Korean Education Center in Thailand [KEC]

สวัสดีค่ะ วันนี้เราอยากอัพเรื่องเรียนเกาหลีของเราหน่อย คือเมื่อวันที่ 16 ม.ค.59 ที่ผ่านมา... เราได้เข้าร่วมปฐมนิเทศน์แบบเป็นทางการ ที่ศูนย์เกาหลีศึกษา หรือ Korean Education Center ย่อๆ ว่า KEC ก็ตื่นเต้นมากกกกก นี่เป็นครั้งแรกจริงๆ ที่ศูนย์เค้ามีจัดปฐมนิเทศแนะนำศูนย์ฯ เพราะคนส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยรู้จักที่นี่มากนัก ว่าจริงๆแล้ว ที่นี่ยังมีอะไรที่น่าสนใจ หรือเค้าทำกิจกรรมอะไรกันบ้าง
บรรยากาศ วันปฐมนิเทศน์ ☺
ที่นี่ก็เรยเกิดอยากเขียนบล็อคนี้ อยากเขียนเล่าเรื่องราวประสบการณ์ที่ได้เรียนที่นี่ว่าเป็นยังงัยบ้าง เราคิดว่าน่าจะมีคนอยากรู้แน่ๆ เพราะเคยมีคนมาถามเราอยู่เหมือนกัน

---ก่อนอื่นก็พูดถึงที่นี่ก่อนคร่าวๆนิดนึง เผื่อคนที่ไม่รู้จัก ที่นี่ก็จะเป็นที่ตั้งทั้งของศูนย์วัฒนธรรมเกาหลี แล้วก็ศูนย์สอนภาษาเกาหลีด้วย ให้แก่บุคคลภายนอกที่สนใจ โดยศูนย์วัฒนธรรมฯนั้น ก็จะมีจัดกิจกรรมต่อเนื่องอยู่บ่อยๆ เช่นมีสอนทำอาหารเกาหลี สอนเต้น K-Pop Dance มีฉายหนังฟรี แล้วก็จัดนิทรรศการเผยแพร่ต่างๆ ที่เกี่ยวกับประเทศเกาหลี ตอนนี้จัดบ่อยๆ เรยก็เป็น concert แนวอินดี้ ให้แก่บุคคลภายนอกที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมได้ ที่สำคัญ ฟรีค่ะ....... ใครสนใจไปติดตามได้ในเฟจทางศูนย์ลิงก์ด้านล่างค่ะ
มาที่ศูนย์เกาหลีศึกษา หรือ KEC ที่เรากำลังเรียนภาษาที่นี่อยู่ อันนี้เราขอเล่าที่มาที่ไปยาวๆ หน่อย คือเมื่อประมาณ พ.ค.58 เราได้เข้าเรียนภาษาเกาหลีที่ศูนย์แห่งนี้ แต่ก่อนหน้าที่จะได้เรียน คือช่วงนั้นเราอยากเรียนภาษาญี่ปุ่นมากๆ แต่ก็ไม่ค่อยมีเงิน เรียนเองแล้วไปไม่รอด ไม่มีวินัย เรียนๆหยุดๆ ก็เลยเบื่อตัวเอง อยากไปเรียนตามโรงเรียน สถาบันมีครูสอนดีกว่า ก็เรยพยายามมองหาค่าเรียนถูกๆ  แต่ไปๆมาๆมาเห็นข่าวว่ามีที่นี่เรียนเกาหลีฟรี แต่เสียค่าหนังสือเล็กน้อยประมาณ 500 บาท เราก็เกิดอยากเรียนขึ้นมาด้วยซะงั้น ที่นี้ก็เรยตัดสินใจลองสมัครเรียนเกาหลีที่ KEC ดู ถ้าได้ก็จะเรียนอยู่ เมื่อก่อนก็เคยคิดอยากเรียนภาษาเกาหลีด้วยเหมือนกัน เพราะชอบฟังเพลงมานานหลายปี ตามทวิตเตอร์โอปป้า แต่ก็ไม่รู้ว่าเค้าพูดไร ใช้กูเกิ้ลแปลตล๊อดๆ  =..="

ซึ่งที่นี่เอง เรื่องการรับสมัคร เค้าก็มีกฎกติกาที่รับสมัครไม่ค่อยจาเหมือนที่ไหนนัก เพราะว่าเค้าสอนภาษาเกาหลีเบื้องต้น ฟรี! ฉะนั้นเค้าจึงมีกติกาไว้ว่า "มาก่อนได้ก่อน " คือต้องส่งใบสมัครทางออนไลน์เท่านั้นค่ะ! ตามลิงค์ที่เค้าแปะไว้หน้าเฟซ แล้วใครส่งใบสมัครได้เร็วกว่าตามช่วงเวลาที่กำหนด คุณก็อาจเป็นผู้โชคดีที่จะได้เรียนกะที่นี่!

และอีกอย่างนึงที่เราว่าก็สำคัญ สำหรับสาวๆ ที่อยากไปเป็นสะใภ้คนเกาหลี อาจจะมีความลำบากในการยื่นเอกสารขอพำนักอยู่กะแฟนที่โน้น ที่นี้ถ้าเราเรียนจบจากที่นี่ เราก็จะได้ใบประกาศที่สามารถนำไปให้ใช้ยื่นประกอบขอวีซ่าสมรส ไปอยู่เกาหลีได้ คนก็เรยสมัครกันมาเยอะมาก เพื่อที่จะให้ได้เรียน ไม่ว่าจะด้วยจุดประสงค์อาไรก็ตาม

พอมาถึงช่วงเค้าประกาศชื่อผู้มีสิทธิ์ได้เรียนทางเฟจ เราก็แบบกรี้ดๆๆๆ ดีใจสุดๆ ที่มีชื่อเราด้วย มันตื่นเต้นไปหมด เรียกว่าดีใจหนักมากกกกก็ว่าได้....  ^..^

หลังจากนั้นเริ่มเปิดเรียน เรามีเรียนทุกวันจันทร์กะพุธ หลังเลิกงาน แต่พอคลาส 4 ย้ายมาเรียนศุกร์วันเดียว ในตอนนั้นที่นี่เค้าสอนแค่ระดับเบื้องต้น มี 4 ระดับ ระดับ 1-4 คือเข้ามาแล้วเรียนยาวเรยค่ะ เรียน 1-4 จบ! ซึ่งเราเริ่มเรียนตั้งแต่เดือน พ.ค.58 มาจนถึง ธ.ค.58 ระยะเวลาก็ 8 เดือน จำนวนชั่วโมงบินก็ 120 ชม.ได้ค่ะ จบตามเกณฑ์เค้า ได้ใบประกาศจากทางศูนย์เป็นที่เรียบร้อย เอาไปยื่นขอวีซ่าสมรส หรือจะไปยื่นอะไรก็แล้วแต่ค่ะ
ตำราที่ใช้เรียน ☺
ต่อมา.... ก่อนใกล้จบ เดือน ธ.ค. เค้ามีข่าวประกาศออกมาอีก ว่าจะทำการเปิดสอนระดับต้น-กลาง ขึ้นมา เราก็ดีใจมากค่ะที่เค้าเปิดคลาสต่ออีก....แต่ว่าก็มีปัญหาหนักใจอยู่ คือเราต้องทำการแย่งสมัครเรียนใหม่เหมือนครั้งก่อนอีก เราก็แอบเครียด จิตตกนิด กลัวไม่ได้เรียนอีก ไม่งั้นเราก็กลับไปเป็นเหมือนเดิม เรียนแล้วล่ม เพราะไม่ค่อยมีวินัยในการเรียนด้วยตัวเอง T..T

แล้วเวลที่เราจะเรียนต่อไปเป็น เวล 2 ซึ่งเค้าต้องการผลสอบ TOPIK กึบ 1 ก็โชคดีมากที่เราสอบ TOPIK เอาไว้เมื่อต.ค.ที่ผ่านมา แล้วก็ผ่านแบบคาบเส้นจิงๆ เราก็เรยแอบคิดๆ ว่าน่าจะยังพอมีหวัง ที่จะลองสมัครดู (รู้สึกจริงจังยังกะว่าจะสมัครขอทุน @..@")

พอถึงวันสมัคร เราขอลางานเรย เพื่อภารกิจนี้ เฮ่อๆ รีบๆสมัครให้ทันเวลา หลังจากนั้นก็รอลุ้น ประมาณ 1 อาทิตย์ได้ เค้าประกาศเร็วกว่าวันที่กำหนดไว้ พอเราเห็นรายชื่อห้อง ก็ดีใจปรี๊ดแตก ว่าชั้นได้เรียนอีกแล้วววว ดีใจจนไม่รู้จะแสดงท่ายังไงแร่ ^^"

หลังจากนั้น เราก็รีบไปลงทะเบียนชำระค่าเรียนก่อนเปิดเรียน ถ้าไม่ไปตามที่กำหนด กลัวเค้าตัดสิทธิ์เรา งัยก็ต้องทำตามกฏกติกาทางศูนย์ค่ะ แล้วก็สำหรับปีนี้เริ่มเก็บค่าเรียนแล้วค่ะ แต่ก็ไม่ได้สูงมากมายอาไร ถ้าเอามาคิดคำนวณดูแล้ว ค่าเรียนที่นี่ก็ยังถูกมากๆๆๆๆๆ จริงๆค่ะ อย่าง Level 2 เราต้องจ่าย 3,300 บาท เรียน 150 ชม. เป็นเวลา 6 เดือน ลองคิดดู ถ้าไปเรียนที่สถาบันอื่นๆ 30 ชม. นี่ค่าเรียนปาไป 3,500-4,500 แล้ว ถ้าเรียนตั้ง 150 ชม.นี่คงจ่ายประมาณ 20,000 บาทได้ เราคงท้อไม่เรียนแล้วค่ะ ขอดำน้ำอ่านทวีต ฟังเพลงไปเรื่อยๆ ดีกว่า ไม่่มีเงินขนาดนั้นนนน +..+
แล้วอีกอย่างนึง ปี 2016 นี้ รู้สึกว่าทางศูนย์ฯ ก็มีการเปลี่ยนแปลงปรับปรุงเยอะค่ะ ไหนจะตำราเรียน ก็เปลี่ยนหมด เปลี่ยนมาใช้ของ ม.อีฮวา (ฉบับจริง) แทน แต่เป็นเล่มผลิด Ver. ไทยนะค่ะ ไม่มี CD อ่ะ น่าเสียดาย... ได้หนังสือมา 2 เล่ม คือ 2-1 กะ 2-2 แล้วก็ซื้อ WB 2-1 ต่างหากอีก 250 บาท (Update 23/6/16 ซื้อ WB 2-2 เพิ่มอีกทีหลัง อีก 250 บาท) ซึ่งรวมค่าใช้จ่ายที่เสียไปทั้งหมดก็ 3,800 สำหรับการเรียน Level 2 นี้ ^^ นอกนั้นก็มีการปฐมนิเทศน์ค่ะ ที่เราเกริ่นๆ ไว้ข้างบน ปีนี้จัดครั้งแรกเรยก็ว่าได้ เรยได้เห็นเหล่านักเรียนทั้งหลายคลาสมารวมตัวกันเยอะมาก เกือบ 200 คนได้

กะว่าจะเล่าเรื่องการเรียนการสอนที่นี่ต่อให้จบ แต่เห็นท่าบล็อกน่าจะยาวมากไป เด๋วขอไปเล่าต่อบล็อคถัดไปหล่ะกัน ^ㅂ^

Links :
Korean Cultural Center in Thailand
Korean Education Center in Thailand