สวัสดีค่ะ หายหน้าไปอีกเช่นเคย กลับมาเรยขอจัดโพสต์ ผลสอบ TOPIK ประเดิมเรยหล่ะกัน
หลังจากที่เรียนเกาจบ Level 2 ที่ KEC เมื่อเดือน ก.ค. 16 เราได้สมัครสอบ TOPIK เอาไว้ เพราะหวังว่าเราจะทำคะแนนได้ดีขึ้น เพื่อผ่านกึบ 2 แล้วเอาใบคะแนนไปสมัครเรียน Level 3 ต่อที่ KEC
แต่พอได้เข้าไปดูคะแนน TOPIK ครั้งที่ 48 สอบเมื่อวันที่ 16 ต.ค. 16 มาแล้ว เอิ่ม...เป็นอย่างที่กังวลไว้เรย คือเรายังสอบไม่ผ่านกึบ 2 อ่ะ คะแนนขาดไปอีก 5 คะแนน T_T ถึงจะคาบเส้น กึบ 2 ที่ 140
ประวัติการสอบ TOPIK I ของเราทั้ง 3 ครั้ง ที่ผ่านมานะค่ะ
1. ครั้งที่ 42 วันที่ 10 ต.ค. 2015 듣기ได้ 45 읽기ได้ั 47 รวม 92 ผ่าน ได้ 1급 (เรียน Level 1)
2. ครั้งที่ 45 วันที่ 20 มี.ค. 2016 듣기ได้ 73 읽기ได้ 64 รวม 137 ผ่าน ได้ 1급 (เรียน Level 2)
3. ครั้งที่ 48 วันที่ 16 ต.ค. 2016 듣기ได้ 78 읽기ได้ 57 รวม 135 ผ่าน ได้ 1급 (จบ Level 2)
นี่เป็นคะแนนการสอบทั้ง 3 ครั้งของเรา หลังจากที่เรียนจบ Level 2 ที่ KEC
ก็พยามประคับประคองความรู้ภาษาของตัวเองไว้
เพระว่าเราไม่ได้เรียนเกาต่อที่ไหนเรย ก็พยามอ่านสือเองบ้าง แต่ก็ยอมรับว่า ตัวเองไม่มีวินัยในการอ่านสือซักเท่าไหร่ ชอบมาอ่านเอาเป็นเอาตายตอนใกล้สอบตลอด แล้วอีกอย่างนึง คือเราก็ไม่ค่อยใช้ในการสื่อสารเท่าไหร่ด้วย แต่ค่อนข้างชอบฟังเพลงเกามากกว่า ฟังตลอดๆทุกวัน คอยอัพเดตเพลงใหม่ๆ แล้วก็เล่น IG ตามคนเกาบ้าง เพื่อดูว่าเค้าพูดคุยกันยังไง แล้วก็ดูรายการคลิปสั้นๆบ้างจาก Youtube เรื่อยๆ
ก็เรยเห็นชัดๆว่า การฟังนัั้นดีขึ้นเรื่อยๆ แต่การอ่านนี่ด้อยลงแทน แต่โดยรวมยังพอรักษาระดับได้อยู่ แม้จะเว้นว่างจากการเรียนมาได้ 3 เดือน ก็ยังอยู่ระดับ 1급 อยู่ดี รู้ตัวเรยว่าต้องไปพัฒนาจุดไหนมากที่สุด 55
มาต่อที่วิธีเช็คคะแนนกันค่ะ หลายคนน่าจะประสบปัญหาในการเข้าเว็บเหมือนเรา อย่างตอนสอบครั้งแรก เราให้น้องเช็คให้ เพราะทำไม่เป็น พอครั้ง 2-3 น่ีเช็คเองที่ร้านเน็ต ใช้เวลาเกือบ 30 นาทีได้ค่ะ ทำวนไปวนมากว่าจะเข้าดูได้ ก็ไม่รู้ทำไมมันช่างยากเย็นเยีึ่ยงนี้
ก่อนอื่นไปที่เว็บ www.topik.go.kr นี้ (แนะนำว่าเปลี่ยนภาษาเป็น English ดีกว่า อ่านเข้าใจง่ายดี)
ก็ไปที่ My Exam Information > เลือก Checking Your Score ตามรูป
จะมี pop up ขึ้นมา ให้โหลด เพื่อที่จะได้เปิดเว็บดูคะแนนเราได้ (ส่วนตัว แนะนำว่า Browser ใช้ Firefox ดีกว่าในการเปิดเว็บ ลอง google chrome แล้วทำไม่ได้ซะที) เราใช้ Firefox ดูทั้งสอบ 2 ครั้ง รู้สึกว่า เราโออันนี้กว่า แต่ก็เสียเวลาทำวนไปมาซ้ำๆ อยู่แหล่ะ กว่าจะดูได้
หลังจากโหลด pop up ไรนั่นแล้ว ก็ Run ไปเรยค่ะ แล้วที่นี้ลองปิดแล้วเปิดหน้าต่าง เข้าไปที่เว็บใหม่อีกที
ให้ไปที่ My Exam Information > เลือก Checking Your Score อีกครั้ง จะมีหน้าให้เรากรอก
อันแรก เลือกครั้งที่เราสอบค่ะ
อันที่ 2 ใส่เลขที่สมัครสอบ ทั้ง 12 หลัก
อันที่ 3 เลือก ปีเกิด เดือนเกิด วันเกิด
แล้วคลิก 조화하기
รอสักครู่ค่ะ ถ้าการโหลดเราไม่ผิดพลาดอะไร ผลสอบจะปรากฏออกมาค่ะ อย่างรูป score ของเราด้านบน
ก็ลองตรวจเช็คชื่อ รหัสดูว่าใช่ของเรารึป่าว น้องที่เคยสอบครั้งที่ 1 กะเรา เค้าเคยเห็นชื่อตัวเองเป็นชื่อคนอื่นด้วยค่ะ คือช่วงวันแรกๆ คนดูเยอะ เว็บไซต์ก็อาจมีรวนได้บ้างให้ใจเย็นๆ ค่ะ
หลังจากได้เห็นคะแนนกันแล้ว เป็นยังงัยกันบ้าง~ ก็จะเฮ หรือจะร้องไห้ก็ว่ากันไปค่ะ 😅
ครั้งหน้า เราอาจจะเอาหนังสือเรียนเกามารีวิวให้อ่านกัน ที่เราเคยใช้เรียนหรือซื้ออ่านเอง มาดูว่าอันไหนน่าใช้มั้ง
ช่วงนี้เราขอเตรียมตัวลุ้นสอบยุ่น JLPT N4 เดือน ธ.ค. ดู ก็ไม่รู้ว่าจะทำได้ดีขึ้นกว่าครั้ง ธ.ค. 2015 มั้ย เพราะว่าสอบไม่ผ่าน ปีนี้เรยขอลองสอบดูอีกที
แล้วเจอกันนะค่ะ ^_~
อัพเรื่องตัวเอง เรียนภาษา รีวิว Follow me ติดตามเพิ่มเติมได้ที่ **IG : pickku14 **twitter : pickku
11.26.2559
7.20.2559
[06.07.16] จบการศึกษาภาษาเกาหลี Level 2 ที่ Korean Education Center
เมื่อวันที่ 6 ก.ค. ที่ผ่านมา เราได้รับใบประกาศจบเวล 2 แล้ว~ ^_^ เรียกว่า ลุ้นมากกกก นึกว่าจะไม่ได้ เพราะว่าขาดเรียนเยอะเกือบเกิน แล้วช่วงหลังก็ขาดส่งการบ้านหลายตัว แถมคะแนนสอบ final ก็ได้น้อยอีก แต่พอสะสมรวมทั้งหมดคะแนนคงผ่านเกณฑ์เค้าพอดี ก็รอดตัวไปค่ะ มีคนไม่ได้ใบด้วย เพราะขาดเรียนเกินกำหนด รวมทั้งไม่ได้ส่งการบ้านอีก =__= เรยอดได้ใบไป
........
แต่ก็มีเรื่องน่าเสียใจอยู่เรื่อง คือเราไม่สามารถเรียนต่อเวล 3 ที่นี่ต่อได้ เนื่องจากเราไม่มีผลสอบ TOPIK กึบ 2 ตามที่ศูนย์กำหนดไว้ ไปสอบมาแล้ว มีนาที่ผ่านมาก็เจ็บใจมากอีก 3 คะแนนจะผ่านกึบ 2 ㅠ..ㅠ อดได้!
เท่าที่ฟังครูเล่ามา เวล 3 จะเรียนหินมากกกกกกขึ้นอีก คือภาษาเราต้องพูดอ่านเขียนได้ระดับต้นกลางมากกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้แล้ว (ตอนนี้ก็ยังพูดติดขัด นึกศัพท์เข้าไป เขียนก็แย่อีก +_+) และการบ้านงานเขียนจะเยอะมากกว่าที่เราเรียนในเวล 2 หลายเท่า ดังนั้นถ้าอ่อนมากๆ ไปเรียนคงไม่ไหวแน่ ได้ท้อเลิกเรียนซะก่อน แถมเรียนตั้ง 3 วันต่อสัปดาห์ นี่เวล 2 เรียน 2 วัน ยังอ่านเตรียมตัวทำการบ้านไม่ค่อยจะทันเร้ยยย ขืนไปเรียนคงไม่รอดอย่างที่ครูว่า =__=" เรยต้องทำใจยอมรับสภาพเป็นจริงของเรา แล้วกลับไปพัฒนาตัวเองสอบ TOPIK ให้ผ่านให้ได้ก่อน คิดว่าจะยื่นสมัครเรียนปีหน้าใหม่ อย่างน้อยก็มีเพื่อนเวล 2 ที่รอเรียนปีหน้าด้วยกัน :)
....
....
หลังจากครูมอบใบประกาศให้แล้ว พวกเราก็ชวนกันไปปาร์ตี้เลี้ยงจบกัน เด่วจะไม่ได้เจอกันอีกแร้ว ก็ไปกินบุฟเฟ่หมูกระทะเกาหลี ไม่ไกลศูนย์เรียน กินกันอิ่มหนุกหนาน และเม้ามอยกันแบบไม่เคยเป็นมาก่อน ส่วนใหญ่จะคุยกันนิดหน่อยเวลาเรียน ถ้าไม่สนิทกัน แต่งานนี้ กระชับมิตรส่งท้าย เรียกว่าได้ล้วงความลับติ่งของกันและกันเรยที่เดียว~😆 เปิดเผยตัวกัน 555
เรามานั่งย้อนดูรูปต่างๆที่เคยถ่ายเล่นไว้ ดูกิจกรรมที่เราเคยทำไรไป ดูสมุด กระดาษโน้ตที่เราจดไรไว้ ตั้งแต่เข้ามาเรียนที่นี่เวล 1 ถึง เวล 2 ก็ปาไปราวๆ 15 เดือนได้ ก็แอบคิดถึงอยู่เหมือนกัลล ทั้งห้องเรียน ทั้งครู เพื่อนๆ ที่สนิทหลายคน ต่อจากนี้ไปก็คงเงียบเหงาน่าดู ไม่ต้องรีบไปเรียนหลังเลิกงาน เสาร์-อาทิตย์ ไม่ต้องนั่งอ่านสือทำการบ้านแบบเอาเป็นเอาตาย ท่องศัพท์ก่อนสอบข้ามคืน~ เฮ่อ.... จาทำไรต่อไปดีหน้อออ
ปีหน้าเราขอให้ได้กลับมาเรียนอีกครั้งเถอะ~ เค้าจะตั้งใจเรียนให้หนักกว่านี้ >~<
ตอนนี้ก็พย้าม พยามเอาสือที่เคยเรียนตอนเวล 1 มานั่งอ่านทวนใหม่ ทำแบบฝึกใหม่ แล้วก็ทำสรุปโน้ตใหม่อีกที ไม่งั้นลืมแน่ๆ ไม่ใช้ต่อเนื่อง ถึงเราจะชอบฟังเพลง มันก็ช่วยไรไม่ได้มากกว่าการเอาออกมาพูดมาเขียนอยู่ดี~ต้องฝึกฝนเท่านั้น ถึงจะเก่งได้! 😆
สำหรับคนที่สนใจอยากเรียนที่นี่เหมือนเรา ก็ให้ไปติดตามเพจ FB ของศูนย์ไว้ จะได้ไม่พลาดข่าวสมัครเรียน หรือกิจกรรมอื่นๆดีๆ ที่ทางศูนย์จัดเรื่อยๆค่ะ 😊
7.18.2559
กิจกรรมแจกหนังสือเรียนของ ศูนย์เกาหลี
เมื่อปลายเดือนมิถุนา ทางศูนย์เกาหลีศึกษา หรือย่อๆ ว่า KEC มีจัดกิจกรรมให้บุคคลทั่วไปได้ร่วมสนุกกันบนเพจ FB แล้วรางวัลที่แจกให้ เป็นเซ็ตหนังสือเรียนภาษาเกาหลีระดับชั้นต้น กะชั้น Level 2 Ehwa Korean 2 เราก็อยากได้ชั้นต้นมากกกกกตามประสาคนบ้าหนังสือ ส่วนเวล 2 เรียนใช้เซ็ตนี้อยู่แร้ว เรยมะอาวว
ปีที่แล้วก็มีจัดกิจกรรมนี้ครั้งแรก เสียดายมันยังไม่ใช่โอกาสของเรา ปีนี้พอจัดอีกเราก็ร่วมสนุกอีกครั้ง และแหล่ว......เมื่อต้นเดือนกรกฎาก็ได้ประกาศรายชื่อผู้โชคดี แท้น~แท่นนนน นี่มัน! ชื่อช้านน...เย้ๆ....นี่ชั้นได้รับหนังสือแว้วว 😄😄 กรี๊ดหนักๆ~ได้มาเป็นเซ็ตใหญ่ มีถุงผ้ากะสืออีก 6 เล่ม แบบ~หนักม๊ากกกจิง..😅 ตอนที่ไปรับเอามา ต้องเอาถุงผ้าหนาๆ ไปใส่อีกใบกลัวจะขาด 😥
맞춤 한국어 1-6 เป็นแบบเรียนภาษาเกาหลี สำหรับชั้นประถม (ฉบับแปลไทย) เท่าที่เปิดดูคร่าวๆ เราว่าผู้ใหญ่อย่างเราก็เรียนได้ คนที่เรียนเองเราว่าก็เรียนได้น่ะ ภาษาไม่ยาก ค่อยๆเรียนรู้สะสมศัพท์ ประโยคใช้งานง่ายๆ แถมฝึกหัดเขียนสั้นๆได้ด้วย เราก็ชอบเรียนจากสือเด็กน่ะ ไม่เครียดดี ภาพเยอะอีกจำง่าย 😊
***แต่อยากให้ระวังการใช้ซะหน่อย~ หนังสือเรียนนี้เป็นหนังสือสำหรับเด็กเรียน บทสนทนาก็พอจะมีภาษาที่เพื่อนพูดกะเพื่อนกันเองบ้าง ดังนั้นคนที่เรียนเอง ถ้าไม่รู้ระดับวิธีการใช้ อาจจะจำไปใช้พูดได้ เพราะคนเกาหลีถือเรื่องนี้มากพอๆกะคนญี่ปุ่น ที่เคยเห็น แล้วก็อ่านเจอมา 😞~ แต่ยังงัยก็ไม่ต้องไปคิดมาก ทุกอย่างมันต้องค่อยๆสะสมเรียนรู้กันไป*** ☺
เพ้อเจ้อเสร็จ~ก็เอามาอวดให้ดู 😆
เรียงให้ดูเรย~ขนาด A4 สีทั้งเล่มทุกเล่มมี CD ให้ด้วย คือมันดีมากกกกก 😍
นี่เป็นตัวอย่างให้ดูเล็กน้อย เห็นแล้วอยากเรียนเรย ภาพการ์ตูนน่ารัก สีทั้งเล่มอีก ใครอยากได้ให้ติดตามกิจกรรมทางเพจ FB ของ Korean Education Center ไว้ค่ะ จะได้ไม่พลาดข่าวสารดีๆ
อ่อ...ส่วนคนที่อยากได้สืออย่างเราบ้าง ไม่ต้องเสียใจที่พลาดโอกาสไป เรามีเว็บมาบอก สามารถไปโหลดเป็น PDF หรืออ่าน E-Book บนเว็บได้ฟรีค่ะ ที่นี่เรย www.kosnet.go.kr แต่สมัครสมาชิกก่อนน่ะค่ะ สำหรับเปิดอ่านแบบ E-book จะได้ใช้งานกันได้ค่ะ
ที่เว็บมีหนังสือให้อ่าน/โหลดหลายเล่มค่ะ เลือกเอาที่ถูกใจ มีแปลหลายภาษาด้วย ภาษาไทยก็มีค่ะ แบบหนังสือด้านบนเรย
อันนี้เราเคยโหลดไว้ปีที่แล้ว แล้วก็ปริ้นออกมา เป็น Eng.version มีไฟล์เสียงให้โหลดไปฝึกฟังกันด้วย 😄
น่าสนใจกันมั้ย~☺
ปีที่แล้วก็มีจัดกิจกรรมนี้ครั้งแรก เสียดายมันยังไม่ใช่โอกาสของเรา ปีนี้พอจัดอีกเราก็ร่วมสนุกอีกครั้ง และแหล่ว......เมื่อต้นเดือนกรกฎาก็ได้ประกาศรายชื่อผู้โชคดี แท้น~แท่นนนน นี่มัน! ชื่อช้านน...เย้ๆ....นี่ชั้นได้รับหนังสือแว้วว 😄😄 กรี๊ดหนักๆ~ได้มาเป็นเซ็ตใหญ่ มีถุงผ้ากะสืออีก 6 เล่ม แบบ~หนักม๊ากกกจิง..😅 ตอนที่ไปรับเอามา ต้องเอาถุงผ้าหนาๆ ไปใส่อีกใบกลัวจะขาด 😥
맞춤 한국어 1-6 เป็นแบบเรียนภาษาเกาหลี สำหรับชั้นประถม (ฉบับแปลไทย) เท่าที่เปิดดูคร่าวๆ เราว่าผู้ใหญ่อย่างเราก็เรียนได้ คนที่เรียนเองเราว่าก็เรียนได้น่ะ ภาษาไม่ยาก ค่อยๆเรียนรู้สะสมศัพท์ ประโยคใช้งานง่ายๆ แถมฝึกหัดเขียนสั้นๆได้ด้วย เราก็ชอบเรียนจากสือเด็กน่ะ ไม่เครียดดี ภาพเยอะอีกจำง่าย 😊
***แต่อยากให้ระวังการใช้ซะหน่อย~ หนังสือเรียนนี้เป็นหนังสือสำหรับเด็กเรียน บทสนทนาก็พอจะมีภาษาที่เพื่อนพูดกะเพื่อนกันเองบ้าง ดังนั้นคนที่เรียนเอง ถ้าไม่รู้ระดับวิธีการใช้ อาจจะจำไปใช้พูดได้ เพราะคนเกาหลีถือเรื่องนี้มากพอๆกะคนญี่ปุ่น ที่เคยเห็น แล้วก็อ่านเจอมา 😞~ แต่ยังงัยก็ไม่ต้องไปคิดมาก ทุกอย่างมันต้องค่อยๆสะสมเรียนรู้กันไป*** ☺
เพ้อเจ้อเสร็จ~ก็เอามาอวดให้ดู 😆
เรียงให้ดูเรย~ขนาด A4 สีทั้งเล่มทุกเล่มมี CD ให้ด้วย คือมันดีมากกกกก 😍
รีวิวเล่ม 1 ให้ดู [สารบัญ] |
แต่ละบท ท้ายบทก็มีพูดถึงเกร็ดวัฒนธรรมของเกาหลี แล้วก็เปรียบเทียบกับบ้านเราเป็นอย่างไร คล้ายกันมั้ย
ตัวอย่างบทสนทนา |
อ่อ...ส่วนคนที่อยากได้สืออย่างเราบ้าง ไม่ต้องเสียใจที่พลาดโอกาสไป เรามีเว็บมาบอก สามารถไปโหลดเป็น PDF หรืออ่าน E-Book บนเว็บได้ฟรีค่ะ ที่นี่เรย www.kosnet.go.kr แต่สมัครสมาชิกก่อนน่ะค่ะ สำหรับเปิดอ่านแบบ E-book จะได้ใช้งานกันได้ค่ะ
ที่เว็บมีหนังสือให้อ่าน/โหลดหลายเล่มค่ะ เลือกเอาที่ถูกใจ มีแปลหลายภาษาด้วย ภาษาไทยก็มีค่ะ แบบหนังสือด้านบนเรย
อันนี้เราเคยโหลดไว้ปีที่แล้ว แล้วก็ปริ้นออกมา เป็น Eng.version มีไฟล์เสียงให้โหลดไปฝึกฟังกันด้วย 😄
น่าสนใจกันมั้ย~☺
ท้ายนี้ ก็ต้องขอขอบคุณกิจกรรมดีๆ ที่ทางศูนย์มีให้เรื่อยมาน่ะค่ะ ขอให้มีตลอดๆๆๆๆปายยย~
เราจะไม่ยอมพลาด... 5555 ^3^
[Update 10.12.16]
เนื่องจากมีน้องถามเข้ามาเรื่องการ Download หนังสือชุดนี้ เราเรยเข้าไปดูในเว็บ ก็เห็นว่าที่เว็บมีการเปลี่ยนแปลงหน้าตาไปบ้าง เรยอาจทำให้งงว่าต้องเข้าไปโหลดตรงไหน ดังนั้นเราเรยมาบอกวิธีสั้นๆ ให้ทำตามกันนะค่ะ
1. ไปที่เว็บ www.kosnet.go.kr
2. เลือกคำว่า E-Book > E-Book Download
3. ให้เลือกรูปสีเหลือง ด้านล่าง ที่มาร์กไว้ค่ะ อันนี้ เป็นหนังสือ เวอร์ชั่นแปลไทย
จากนั้นจะมีหน้าต่างเหลี่ยมออกมาทางขวา ให้เลือกหนังสือที่จะ Download
กรอบสีเขียวด้านบน เป็นหนังสือเรียนค่ะ ชื่อว่า 맞춤한국어 교재 (태국어권) 1 ~ 6
กรอบสีส้มด้านล่าง เป็นคู่มือครูค่ะ ชื่อว่า 맞춤한국어 교사용지도서 (태국어권) 1 ~ 6
เลือกคลิกโหลดหนังสือได้เรยค่ะ เป็นไฟล์ PDF เล่มละประมาณ 200 mb
บอกวิธีให้แร้ว คงไม่ยากไปเนอะ โหลดแล้ว ก็เอามาอ่านด้วยน่ะ ทู้กคน~ 😆
อธิบายเพิ่มนิดนึง : 맞춤 한국어 1-6 แบบเรียนภาษาเกาหลี สำหรับชั้นประถม (ฉบับแปลไทย) มีทั้งหมด 6 เล่มค่ะ (หมายเหตุ : ฉบับแปลไทย ในเว็บ ไม่มีไฟล์เสียงให้ Download น่ะค่ะ น่าจะมีแต่เฉพาะเวอร์ชั่น English อย่างเดียว)
[Update 10.12.16]
เนื่องจากมีน้องถามเข้ามาเรื่องการ Download หนังสือชุดนี้ เราเรยเข้าไปดูในเว็บ ก็เห็นว่าที่เว็บมีการเปลี่ยนแปลงหน้าตาไปบ้าง เรยอาจทำให้งงว่าต้องเข้าไปโหลดตรงไหน ดังนั้นเราเรยมาบอกวิธีสั้นๆ ให้ทำตามกันนะค่ะ
1. ไปที่เว็บ www.kosnet.go.kr
2. เลือกคำว่า E-Book > E-Book Download
3. ให้เลือกรูปสีเหลือง ด้านล่าง ที่มาร์กไว้ค่ะ อันนี้ เป็นหนังสือ เวอร์ชั่นแปลไทย
จากนั้นจะมีหน้าต่างเหลี่ยมออกมาทางขวา ให้เลือกหนังสือที่จะ Download
กรอบสีเขียวด้านบน เป็นหนังสือเรียนค่ะ ชื่อว่า 맞춤한국어 교재 (태국어권) 1 ~ 6
กรอบสีส้มด้านล่าง เป็นคู่มือครูค่ะ ชื่อว่า 맞춤한국어 교사용지도서 (태국어권) 1 ~ 6
เลือกคลิกโหลดหนังสือได้เรยค่ะ เป็นไฟล์ PDF เล่มละประมาณ 200 mb
บอกวิธีให้แร้ว คงไม่ยากไปเนอะ โหลดแล้ว ก็เอามาอ่านด้วยน่ะ ทู้กคน~ 😆
อธิบายเพิ่มนิดนึง : 맞춤 한국어 1-6 แบบเรียนภาษาเกาหลี สำหรับชั้นประถม (ฉบับแปลไทย) มีทั้งหมด 6 เล่มค่ะ (หมายเหตุ : ฉบับแปลไทย ในเว็บ ไม่มีไฟล์เสียงให้ Download น่ะค่ะ น่าจะมีแต่เฉพาะเวอร์ชั่น English อย่างเดียว)
[02.07.16] NANTA SHOW IN BANGKOK
เมื่อวันเสาร์ที่ 2 ก.ค. ที่ผ่านมา เรามีโอกาสได้ไปดู Nanta Show มาค่ะ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ทางศูนย์เกาหลีศึกษา หรือ Korean Education Center ที่เราเรียนอยู่นั้น เค้าได้จัดขึ้นมาเพื่อเป็นกิจกรรมที่ระลึกให้กับนักเรียน คลาสต้นปีนี้ที่กำลังจะจบในเดือน ก.ค. ก็อยากจะบอกว่า happy มากกกกกก การแสดงสนุกมาก ทั้งขำทั้งฮา นักแสดงเค้าก็แสดงเก่งอ่ะ สีหน้าท่าทาง ดูเพลินๆ แป๊บๆ ก็จบซะแร่ อยากดูอีกจัง
ช่วงทำการแสดงเค้าห้ามถ่ายรูป หรืออัดวิดีโอใดๆ เรยเก็บภาพบรรยากาศได้นิดนึง😑 อุตส่าห์ได้ที่นั่งเกือบแถวหน้า ตรงกลางเวทีพอดี เห็นนักแสดงชัดมาก
หลังจบการแสดง ผู้อำนวยการศูนย์เรียน มีกล่าวทักทาย และแนะนำครูผู้สอนแต่ละชั้นเรียนกันอีกครั้ง
แล้วก็มีมอบรางวัลให้กับนักเรียนเรียนดีตลอดเทอมนี้ด้วย แอบอิจฉาเพื่อน แหะๆๆ
สุดท้ายถ่ายรูปหมู่ที่ระลึกกับนักแสดงกัน ก่อนจะอำลาแยกย้ายกลับบ้าน
จบแล้วค่ะ~ ก็ขอขอบคุณกิจกรรมดีๆ ที่ทาง KEC มอบให้น่ะค่ะ รู้สึกดีใจที่ได้เรียนมาเรียนเกาหลีที่นี่เป็นที่แรกของเรา ยังจำได้ตั้งแต่วันที่สมัครครั้งแรก มาครั้งที่สอง แล้วก็เพื่อนๆที่ได้เรียนร่วมกันมา ได้ทั้งความรู้แล้วก็ได้ทำกิจกรรมนู้นนี่ต่างๆ ที่ไม่เคยทำ นี่ก็ ราวๆ 14 เดือนได้ที่อยู่กะ KEC มากลับบ้านดึกประจำจนเป็นเรื่องปกติไปแร่ เราก็ได้แต่หวังว่าจะมีโอกาสได้กลับไปเรียนที่นี่อีกครั้งในเวล 3 น่ะ ฮิๆ
สำหรับผู้สนใจติดตามได้ทางเฟจ FB ของทางศูนย์ได้เรยค่ะ จะได้ไม่พลาดข่าวสารของทางศูนย์เรียน
ได้ที่เพจนี้ Korean Education Center
ช่วงทำการแสดงเค้าห้ามถ่ายรูป หรืออัดวิดีโอใดๆ เรยเก็บภาพบรรยากาศได้นิดนึง😑 อุตส่าห์ได้ที่นั่งเกือบแถวหน้า ตรงกลางเวทีพอดี เห็นนักแสดงชัดมาก
ป้ายทักทาย ก่อนเริ่มการแสดง |
เก็บภาพได้ตอนจบ 😅😅 |
มอบรางวัลแก่คนเรียนดี |
สุดท้ายถ่ายรูปหมู่ที่ระลึกกับนักแสดงกัน ก่อนจะอำลาแยกย้ายกลับบ้าน
จบแล้วค่ะ~ ก็ขอขอบคุณกิจกรรมดีๆ ที่ทาง KEC มอบให้น่ะค่ะ รู้สึกดีใจที่ได้เรียนมาเรียนเกาหลีที่นี่เป็นที่แรกของเรา ยังจำได้ตั้งแต่วันที่สมัครครั้งแรก มาครั้งที่สอง แล้วก็เพื่อนๆที่ได้เรียนร่วมกันมา ได้ทั้งความรู้แล้วก็ได้ทำกิจกรรมนู้นนี่ต่างๆ ที่ไม่เคยทำ นี่ก็ ราวๆ 14 เดือนได้ที่อยู่กะ KEC มากลับบ้านดึกประจำจนเป็นเรื่องปกติไปแร่ เราก็ได้แต่หวังว่าจะมีโอกาสได้กลับไปเรียนที่นี่อีกครั้งในเวล 3 น่ะ ฮิๆ
สำหรับผู้สนใจติดตามได้ทางเฟจ FB ของทางศูนย์ได้เรยค่ะ จะได้ไม่พลาดข่าวสารของทางศูนย์เรียน
ได้ที่เพจนี้ Korean Education Center
2.19.2559
ประสบการณ์เรียนที่ Korean Education Center [KEC] ต่อ
ต่อจากบล็อกที่แล้ว ที่ว่าจะเล่าเรื่องการเรียนของที่นี่ว่าเป็นยังงัยบ้าง
ตอนเรียนชั้นต้นของที่นี่ เราเรียนหลักสูตรชั้นต้นธรรมดา 8 เดือน คือเรียนต่อเนื่องยาวเรยค่ะ เรียนตั้งแต่คลาส 1 - 4 คือ 2 เดือนจบ 1 คลาส ก่อนจบจะมีการสอบเลื่อนคลาส ส่วนใหญ่ก็ผ่านกันหมดแหล่ะ ^^ ห้องเราตอนนั้นมี 24 คน ก็อยู่รอดกันมา ประมาณ 18 คนได้ ที่หายๆ ไป คือบางคนไม่พร้อมเรียนต่อ ติดงาน ติดเรียน เรยต้องเลิกไป แอบเสียดายแทน =..=
ส่วนหนังสือเรียนที่นี่ใช้หนังสือเรียนซีรี่ห์ของ 열린 한국어 มีเรียนตัวอักษร 1 เล่ม แล้วก็หนังสือเรียน 열린 한국어 เล่ม 1 กะ 2 เนื้อหาหนังสือเราว่ากำลังดี คือไม่ยาก ค่อยๆ เรียนรู้ทั้งศัพท์ แกรมม่า รูปเยอะ ทำให้จำศัพท์ได้ง่ายขึ้น ตอนที่เราเตรียมตัวสอบ TOPIK 1 เราก็อ่านจากหนังสือเรียนของที่นี่เป็นหลักอ่ะค่ะ อ่านทวนซ้ำทุกหน้า ทุกบรรทัด จนกว่าจะเข้าใจ และจำได้ แล้วก็ฝึกเองทั้งเขียน ทั้งท่องศัพท์ แต่งประโยคไรเอง เอาแกรมม่า ศัพท์ ที่เรียนมาอยู่ในหัวเท่าไหร่ ก็เอาออกมาใช้ให้หมด เพื่อฝึกทักษะการเขียนตัวเองด้วย พอจำได้เข้าใจแล้ว ถึงจะทำสรุปศัพท์ แกรมอย่างกระชับอีกที ตรงนี้เราจะเริ่มพยายามไม่เขียนไทยเรย จะยกรูปประโยคมา พอกลับมาอ่านสรุปอีกทีเราก็เริ่มเข้าใจจำได้ จากนั้นถึงจะไปเรื่องอื่นต่อ แล้วก็กลับมาทวนบ้างเป็นระยะ หนังสือเล่มนี้ถือเป็นหนังสือบุกเบิกของเราเรย อ่านเขียนจนเยิน ก็คิดว่าจะซื้อเล่มต่อไปมาอ่านศึกษาเอง คือมันคุ้นเคยแล้วด้วย
เรื่องการเรียนการสอน ครูที่นี่เป็นคนเกาหลีหมดค่ะ แต่ก็พูดไทยกันได้บ้างไม่ต้องกลัว แต่บางทีก็ไม่เข้าใจบ้างเหมือนกัน 55
ครูห้องเรา แกน่ารัก ใจดีมากๆ ค่ะ แถมแกก็สอนที่อื่นๆ ด้วย ขยันมากกก แกก็สอนตามในหนังสือเรียนแหล่ะค่ะ ก็มียกตัวอย่าง คำศัพท์ แกรมม่าอื่นๆ บ้าง แกก็พยายามอธิบายเกาอย่างง่ายๆ นึกคำไม่ออก แกก็ไทยบ้าง อิ้งค์บ้างก็มี
เวลาเรียนบทใหม่ ครูก็จะพยายามอธิบายแกรม ศัพท์ แล้วก็จะเรียกถาม-ตอบ เรียงกันแทบทุกคน มีให้จับคู่-กลุ่ม แต่งบทสนทนาคุยกันก็มี ดูว่าส่วนใหญ่เข้าใจใช้เป็นมั้ย ก็พอได้ฝึกพูดบ้าง แล้วก็ฝึกเขียนเอาจากแบบฝึกในหนังสือ เราว่าไม่ยาก ถ้าเตรียมตัวอ่านมาก่อนล่วงหน้าน่ะ หลังๆ เราไม่มีเวลา ไม่ได้ทวนเรย แล้วก็ไม่ได้เตรียมล่วงหน้า พอนั่งเรียน ก็ไม่เข้าใจหนักมาก เล่ม 2 บทหลังๆ ศัพท์จะเยอะขึ้น เราจำไม่ได้เรยค่ะ นั่งเรียนแบบมึนๆ ผ่านไป
พอสอบคลาสสุดท้ายที่จะจบรับใบประกาศ เรานี่เครียดเรยค่ะ ต้องสอบทั้งหมดที่เรียนมาตั้งแต่เล่ม 1-2 ก็มีอ่านหนังสือเหนื่อย เล่ม 2 บทหลังๆ เราไม่ได้เรย ทั้งศัพท์ทั้งแกรม พอมาเห็นคะแนนก็แทบจะปาดเหงื่อยยย ที่รู้ว่าผ่านนนนน หวุดหวิด จบจนได้น่ะเรา =...="
มาต่อกันที่ Class Level 2 (เริ่มเรียนเมื่อ 18 ม.ค.59) เราเรียน สัปดาห์ละ 2 วัน จันทร์กะพุธ หลังเลิกงาน เรียนทั้งหมด 6 เดือน ตั้งแต่ ม.ค. - มิ.ย. 59 จำนวน 150 ชม. อ่อ..ลืมบอกอีกอย่าง ที่นี่ส่วนใหญ่เปิดสอนวันธรรดาน่ะค่ะ แต่ก็มีคลาส Level 0 ที่สอนวันเสาร์ด้วย แค่คลาสเดียว แต่อนาคตไม่แน่ใจว่าจะมีมากกว่านี้มั้ย คือก็อยากจะบอกเอาไว้ ก่อนสมัครเรียนที่นี่อ่ะค่ะ เราพร้อมเรียนรึป่าว แล้วก็เวลาเดินทางมาเรียน กลับบ้านด้วย ว่าไหวมั้ย เพราะเรียนตั้งแต่ 6 โมงเย็น ถึง 3 ทุ่ม เลิกก็ดึกอยู่น่ะค่ะ ขนาดเวล 3 ตอนนี้ ยังเรียนตั้ง 3 วัน แน่ะ คิดให้ดีก่อนจะสมัครเรียนน่ะค่ะ ไม่งั้นเรียนไม่ไหวพาลเหนื่อย เลิกเรียนซะก่อน เสียดายแทนคนที่เค้าอยากเรียน แต่ไม่ได้เรียน อีกอย่างศูนย์ก็เริ่มออกกฎใหม่มาด้วยค่ะว่า ถ้าขาดเรียนก็ต้องเขียนใบลา ที่ศูนย์จะมีให้ค่ะ ถ้าขาดมากเกิน ก็อาจจะเรียนไม่ผ่านได้น่ะ ย้ำ! ไปดูความพร้อมของเราให้ดีก่อนค่ะ
แล้วเรื่องการเรียน Level 2 นี้ สำหรับเราน่ะ อยากจะบอกว่า มันโหดมากกกกขึ้น แล้วก็ความรู้ที่เรียนมาก่อนหน้านี้ในหนังสือของยอริน (열린 한국어) ไม่ต่อเนื่องกัน กะหนังสือใหม่ของ ม.อีฮวา เรารู้สึกว่าเนื้อหาของ ม.อีฮวา เนื้อหาละเอียด ลึก ยากกว่าเยอะ แค่เล่ม 2 มันเยอะกว่าของ ม.โซลกะ เซจงที่เราเคยดูมาซะอีก แล้วแกรมม่าบางตัว เราก็หาอ่านอ้างอิงจากสือ สสท.ไม่ได้ ต้องไปค้นหาในเน็ตเอาแทน ก็เริ่มเครียดหล่ะค่ะ จากชิวๆ เริ่มจะไม่ชิวกันแหล่ะที่นี่ เพราะอ่านไม่ออกแปลแทบไม่ได้ ศัพท์ยาก เยอะขึ้น เนื้อเรื่องอ่านเยอะขึ้น ต้องเพิ่งดิกมือถือแปลตลอด รูปภาพน้อย มีแต่ตัวหนังสือ ขนาดเป็น Ver. Thai ชั้นก็ยังมึน ที่มันแปลออธิบายแปลกๆ อ่ะ +...+
บรรยากาศเรียน Level 2 ครูก็พูดเกาแบบจัดเต็ม มากกว่าคลาสชั้นต้น แกต้องการฝึกให้พวกเราฟังมากๆ แล้วแกรมม่าเรื่องนึง ครูอธิบายยกตัวอย่างนี่เกือบครึ่งชม.ได้ เรานี่นั่งเงิบมึนเรยทีนี้ ขนาดโดนเรียกให้มานั่งเรียนหน้าห้อง ก็ยังไม่เข้าใจ ฟังไม่ออกอ่ะ พูดอาไรตอบไรก็ไม่ออกด้วย เง้อ..ไม่คิดว่ามันยากละเอียดขนาดนี้ มีเครียดๆ...
แต่เราก็พยายามที่จะเรียนรู้ ทบทวนน่ะ ถึงจะเหนื่อยจากงาน เซ็งจิตกะที่ทำงานบ้าง พอมาเรียนก็พยายามตั้งใจเรียนในห้อง ในเมื่อเราเลือกที่จะเข้ามาเรียนแล้ว เราก็ไม่อยากทำเป็นเล่นๆ อยากทำออกมาให้ดีที่สุด ไม่ว่าใครเค้าจะมองว่าเราเรียนไปทำไม เพื่ออะไร จะเอาไปใช้ไร บางทีเราก็ไม่เข้าใจตัวเองน่ะ แต่มันก็เป็นความสุขอีกอย่างนึงที่ทำให้เราใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ได้ความรู้ พัฒนาสมอง ได้เพื่อนใหม่ๆ ส่วนใหญ่วัยทำงานเหมือนกัน เราได้ช่วยเหลือกัน ได้คุยแลกเปลี่ยนกันสนุกดี ^^ หวังว่าที่ทำไป วันข้างหน้ามันน่าจะได้ใช้ประโยชน์บ้าง
แล้วเราก็ได้ลงสมัคร TOPIK I ไปอีกรอบด้วย อยากผ่าน กึบ 2 ให้ได้ คือทำแล้ว ต้องทำให้ดีขึ้นไปอีก! ทีนี้ก็เรยต้องพยายามปรับทัศนคติตัวเองใหม่ ว่าเรากำลังเรียนเพื่อ สอบให้ผ่านกึบ 2 เราต้องผ่านมันให้ได้! >..< อืม.....ปลอบใจตัวเอง
สรุปที่บ่นๆ ไปยาวๆ นั้นถึงเวล 2 มันจะยากขึ้น เราก็ต้องพยายามปรับปรุงตัวเอง ตั้งใจเรียนและทบทวน อ่านเสริมให้หนักมากกว่านี้ ไม่งั้นคงไปต่อไม่รอด =...="
ว่าแล้วก็ขอจบบล็อกนี้ไว้เท่านี้เรยหล่ะกันน่ะค่ะ มีอะไรน่าสนใจจะมาเล่าต่ออีกที ตอนนี้ขอไปเก็บตัวนั่งทบทวนอ่านหนังสือใหม่แต่ต้นก่อนค่ะ เตรียมรับมือสอบ TOPIK I อีกครั้ง มี.ค. 59 นี้ ใครสอบบ้างก็ไปเจอกันได้ค่ะที่ มศว. ^_~
ตอนเรียนชั้นต้นของที่นี่ เราเรียนหลักสูตรชั้นต้นธรรมดา 8 เดือน คือเรียนต่อเนื่องยาวเรยค่ะ เรียนตั้งแต่คลาส 1 - 4 คือ 2 เดือนจบ 1 คลาส ก่อนจบจะมีการสอบเลื่อนคลาส ส่วนใหญ่ก็ผ่านกันหมดแหล่ะ ^^ ห้องเราตอนนั้นมี 24 คน ก็อยู่รอดกันมา ประมาณ 18 คนได้ ที่หายๆ ไป คือบางคนไม่พร้อมเรียนต่อ ติดงาน ติดเรียน เรยต้องเลิกไป แอบเสียดายแทน =..=
ส่วนหนังสือเรียนที่นี่ใช้หนังสือเรียนซีรี่ห์ของ 열린 한국어 มีเรียนตัวอักษร 1 เล่ม แล้วก็หนังสือเรียน 열린 한국어 เล่ม 1 กะ 2 เนื้อหาหนังสือเราว่ากำลังดี คือไม่ยาก ค่อยๆ เรียนรู้ทั้งศัพท์ แกรมม่า รูปเยอะ ทำให้จำศัพท์ได้ง่ายขึ้น ตอนที่เราเตรียมตัวสอบ TOPIK 1 เราก็อ่านจากหนังสือเรียนของที่นี่เป็นหลักอ่ะค่ะ อ่านทวนซ้ำทุกหน้า ทุกบรรทัด จนกว่าจะเข้าใจ และจำได้ แล้วก็ฝึกเองทั้งเขียน ทั้งท่องศัพท์ แต่งประโยคไรเอง เอาแกรมม่า ศัพท์ ที่เรียนมาอยู่ในหัวเท่าไหร่ ก็เอาออกมาใช้ให้หมด เพื่อฝึกทักษะการเขียนตัวเองด้วย พอจำได้เข้าใจแล้ว ถึงจะทำสรุปศัพท์ แกรมอย่างกระชับอีกที ตรงนี้เราจะเริ่มพยายามไม่เขียนไทยเรย จะยกรูปประโยคมา พอกลับมาอ่านสรุปอีกทีเราก็เริ่มเข้าใจจำได้ จากนั้นถึงจะไปเรื่องอื่นต่อ แล้วก็กลับมาทวนบ้างเป็นระยะ หนังสือเล่มนี้ถือเป็นหนังสือบุกเบิกของเราเรย อ่านเขียนจนเยิน ก็คิดว่าจะซื้อเล่มต่อไปมาอ่านศึกษาเอง คือมันคุ้นเคยแล้วด้วย
เรื่องการเรียนการสอน ครูที่นี่เป็นคนเกาหลีหมดค่ะ แต่ก็พูดไทยกันได้บ้างไม่ต้องกลัว แต่บางทีก็ไม่เข้าใจบ้างเหมือนกัน 55
ครูห้องเรา แกน่ารัก ใจดีมากๆ ค่ะ แถมแกก็สอนที่อื่นๆ ด้วย ขยันมากกก แกก็สอนตามในหนังสือเรียนแหล่ะค่ะ ก็มียกตัวอย่าง คำศัพท์ แกรมม่าอื่นๆ บ้าง แกก็พยายามอธิบายเกาอย่างง่ายๆ นึกคำไม่ออก แกก็ไทยบ้าง อิ้งค์บ้างก็มี
เวลาเรียนบทใหม่ ครูก็จะพยายามอธิบายแกรม ศัพท์ แล้วก็จะเรียกถาม-ตอบ เรียงกันแทบทุกคน มีให้จับคู่-กลุ่ม แต่งบทสนทนาคุยกันก็มี ดูว่าส่วนใหญ่เข้าใจใช้เป็นมั้ย ก็พอได้ฝึกพูดบ้าง แล้วก็ฝึกเขียนเอาจากแบบฝึกในหนังสือ เราว่าไม่ยาก ถ้าเตรียมตัวอ่านมาก่อนล่วงหน้าน่ะ หลังๆ เราไม่มีเวลา ไม่ได้ทวนเรย แล้วก็ไม่ได้เตรียมล่วงหน้า พอนั่งเรียน ก็ไม่เข้าใจหนักมาก เล่ม 2 บทหลังๆ ศัพท์จะเยอะขึ้น เราจำไม่ได้เรยค่ะ นั่งเรียนแบบมึนๆ ผ่านไป
อ่านหนังสือเตรียมสอบจบชั้นต้น |
มาต่อกันที่ Class Level 2 (เริ่มเรียนเมื่อ 18 ม.ค.59) เราเรียน สัปดาห์ละ 2 วัน จันทร์กะพุธ หลังเลิกงาน เรียนทั้งหมด 6 เดือน ตั้งแต่ ม.ค. - มิ.ย. 59 จำนวน 150 ชม. อ่อ..ลืมบอกอีกอย่าง ที่นี่ส่วนใหญ่เปิดสอนวันธรรดาน่ะค่ะ แต่ก็มีคลาส Level 0 ที่สอนวันเสาร์ด้วย แค่คลาสเดียว แต่อนาคตไม่แน่ใจว่าจะมีมากกว่านี้มั้ย คือก็อยากจะบอกเอาไว้ ก่อนสมัครเรียนที่นี่อ่ะค่ะ เราพร้อมเรียนรึป่าว แล้วก็เวลาเดินทางมาเรียน กลับบ้านด้วย ว่าไหวมั้ย เพราะเรียนตั้งแต่ 6 โมงเย็น ถึง 3 ทุ่ม เลิกก็ดึกอยู่น่ะค่ะ ขนาดเวล 3 ตอนนี้ ยังเรียนตั้ง 3 วัน แน่ะ คิดให้ดีก่อนจะสมัครเรียนน่ะค่ะ ไม่งั้นเรียนไม่ไหวพาลเหนื่อย เลิกเรียนซะก่อน เสียดายแทนคนที่เค้าอยากเรียน แต่ไม่ได้เรียน อีกอย่างศูนย์ก็เริ่มออกกฎใหม่มาด้วยค่ะว่า ถ้าขาดเรียนก็ต้องเขียนใบลา ที่ศูนย์จะมีให้ค่ะ ถ้าขาดมากเกิน ก็อาจจะเรียนไม่ผ่านได้น่ะ ย้ำ! ไปดูความพร้อมของเราให้ดีก่อนค่ะ
หนังสือเรียน 이화 한국어 สำหรับ Level 2 |
เนื้อหาที่เรียนจาก 이화 2-1 |
แต่เราก็พยายามที่จะเรียนรู้ ทบทวนน่ะ ถึงจะเหนื่อยจากงาน เซ็งจิตกะที่ทำงานบ้าง พอมาเรียนก็พยายามตั้งใจเรียนในห้อง ในเมื่อเราเลือกที่จะเข้ามาเรียนแล้ว เราก็ไม่อยากทำเป็นเล่นๆ อยากทำออกมาให้ดีที่สุด ไม่ว่าใครเค้าจะมองว่าเราเรียนไปทำไม เพื่ออะไร จะเอาไปใช้ไร บางทีเราก็ไม่เข้าใจตัวเองน่ะ แต่มันก็เป็นความสุขอีกอย่างนึงที่ทำให้เราใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ได้ความรู้ พัฒนาสมอง ได้เพื่อนใหม่ๆ ส่วนใหญ่วัยทำงานเหมือนกัน เราได้ช่วยเหลือกัน ได้คุยแลกเปลี่ยนกันสนุกดี ^^ หวังว่าที่ทำไป วันข้างหน้ามันน่าจะได้ใช้ประโยชน์บ้าง
แล้วเราก็ได้ลงสมัคร TOPIK I ไปอีกรอบด้วย อยากผ่าน กึบ 2 ให้ได้ คือทำแล้ว ต้องทำให้ดีขึ้นไปอีก! ทีนี้ก็เรยต้องพยายามปรับทัศนคติตัวเองใหม่ ว่าเรากำลังเรียนเพื่อ สอบให้ผ่านกึบ 2 เราต้องผ่านมันให้ได้! >..< อืม.....ปลอบใจตัวเอง
สรุปที่บ่นๆ ไปยาวๆ นั้นถึงเวล 2 มันจะยากขึ้น เราก็ต้องพยายามปรับปรุงตัวเอง ตั้งใจเรียนและทบทวน อ่านเสริมให้หนักมากกว่านี้ ไม่งั้นคงไปต่อไม่รอด =...="
ว่าแล้วก็ขอจบบล็อกนี้ไว้เท่านี้เรยหล่ะกันน่ะค่ะ มีอะไรน่าสนใจจะมาเล่าต่ออีกที ตอนนี้ขอไปเก็บตัวนั่งทบทวนอ่านหนังสือใหม่แต่ต้นก่อนค่ะ เตรียมรับมือสอบ TOPIK I อีกครั้ง มี.ค. 59 นี้ ใครสอบบ้างก็ไปเจอกันได้ค่ะที่ มศว. ^_~
2.18.2559
ประสบการณ์เรียนที่ Korean Education Center in Thailand [KEC]
สวัสดีค่ะ วันนี้เราอยากอัพเรื่องเรียนเกาหลีของเราหน่อย คือเมื่อวันที่ 16 ม.ค.59 ที่ผ่านมา... เราได้เข้าร่วมปฐมนิเทศน์แบบเป็นทางการ ที่ศูนย์เกาหลีศึกษา หรือ Korean Education Center ย่อๆ ว่า KEC ก็ตื่นเต้นมากกกกก นี่เป็นครั้งแรกจริงๆ ที่ศูนย์เค้ามีจัดปฐมนิเทศแนะนำศูนย์ฯ เพราะคนส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยรู้จักที่นี่มากนัก ว่าจริงๆแล้ว ที่นี่ยังมีอะไรที่น่าสนใจ หรือเค้าทำกิจกรรมอะไรกันบ้าง
ที่นี่ก็เรยเกิดอยากเขียนบล็อคนี้ อยากเขียนเล่าเรื่องราวประสบการณ์ที่ได้เรียนที่นี่ว่าเป็นยังงัยบ้าง เราคิดว่าน่าจะมีคนอยากรู้แน่ๆ เพราะเคยมีคนมาถามเราอยู่เหมือนกัน
---ก่อนอื่นก็พูดถึงที่นี่ก่อนคร่าวๆนิดนึง เผื่อคนที่ไม่รู้จัก ที่นี่ก็จะเป็นที่ตั้งทั้งของศูนย์วัฒนธรรมเกาหลี แล้วก็ศูนย์สอนภาษาเกาหลีด้วย ให้แก่บุคคลภายนอกที่สนใจ โดยศูนย์วัฒนธรรมฯนั้น ก็จะมีจัดกิจกรรมต่อเนื่องอยู่บ่อยๆ เช่นมีสอนทำอาหารเกาหลี สอนเต้น K-Pop Dance มีฉายหนังฟรี แล้วก็จัดนิทรรศการเผยแพร่ต่างๆ ที่เกี่ยวกับประเทศเกาหลี ตอนนี้จัดบ่อยๆ เรยก็เป็น concert แนวอินดี้ ให้แก่บุคคลภายนอกที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมได้ ที่สำคัญ ฟรีค่ะ....... ใครสนใจไปติดตามได้ในเฟจทางศูนย์ลิงก์ด้านล่างค่ะ
มาที่ศูนย์เกาหลีศึกษา หรือ KEC ที่เรากำลังเรียนภาษาที่นี่อยู่ อันนี้เราขอเล่าที่มาที่ไปยาวๆ หน่อย คือเมื่อประมาณ พ.ค.58 เราได้เข้าเรียนภาษาเกาหลีที่ศูนย์แห่งนี้ แต่ก่อนหน้าที่จะได้เรียน คือช่วงนั้นเราอยากเรียนภาษาญี่ปุ่นมากๆ แต่ก็ไม่ค่อยมีเงิน เรียนเองแล้วไปไม่รอด ไม่มีวินัย เรียนๆหยุดๆ ก็เลยเบื่อตัวเอง อยากไปเรียนตามโรงเรียน สถาบันมีครูสอนดีกว่า ก็เรยพยายามมองหาค่าเรียนถูกๆ แต่ไปๆมาๆมาเห็นข่าวว่ามีที่นี่เรียนเกาหลีฟรี แต่เสียค่าหนังสือเล็กน้อยประมาณ 500 บาท เราก็เกิดอยากเรียนขึ้นมาด้วยซะงั้น ที่นี้ก็เรยตัดสินใจลองสมัครเรียนเกาหลีที่ KEC ดู ถ้าได้ก็จะเรียนอยู่ เมื่อก่อนก็เคยคิดอยากเรียนภาษาเกาหลีด้วยเหมือนกัน เพราะชอบฟังเพลงมานานหลายปี ตามทวิตเตอร์โอปป้า แต่ก็ไม่รู้ว่าเค้าพูดไร ใช้กูเกิ้ลแปลตล๊อดๆ =..="
ซึ่งที่นี่เอง เรื่องการรับสมัคร เค้าก็มีกฎกติกาที่รับสมัครไม่ค่อยจาเหมือนที่ไหนนัก เพราะว่าเค้าสอนภาษาเกาหลีเบื้องต้น ฟรี! ฉะนั้นเค้าจึงมีกติกาไว้ว่า "มาก่อนได้ก่อน " คือต้องส่งใบสมัครทางออนไลน์เท่านั้นค่ะ! ตามลิงค์ที่เค้าแปะไว้หน้าเฟซ แล้วใครส่งใบสมัครได้เร็วกว่าตามช่วงเวลาที่กำหนด คุณก็อาจเป็นผู้โชคดีที่จะได้เรียนกะที่นี่!
และอีกอย่างนึงที่เราว่าก็สำคัญ สำหรับสาวๆ ที่อยากไปเป็นสะใภ้คนเกาหลี อาจจะมีความลำบากในการยื่นเอกสารขอพำนักอยู่กะแฟนที่โน้น ที่นี้ถ้าเราเรียนจบจากที่นี่ เราก็จะได้ใบประกาศที่สามารถนำไปให้ใช้ยื่นประกอบขอวีซ่าสมรส ไปอยู่เกาหลีได้ คนก็เรยสมัครกันมาเยอะมาก เพื่อที่จะให้ได้เรียน ไม่ว่าจะด้วยจุดประสงค์อาไรก็ตาม
พอมาถึงช่วงเค้าประกาศชื่อผู้มีสิทธิ์ได้เรียนทางเฟจ เราก็แบบกรี้ดๆๆๆ ดีใจสุดๆ ที่มีชื่อเราด้วย มันตื่นเต้นไปหมด เรียกว่าดีใจหนักมากกกกก็ว่าได้.... ^..^
หลังจากนั้นเริ่มเปิดเรียน เรามีเรียนทุกวันจันทร์กะพุธ หลังเลิกงาน แต่พอคลาส 4 ย้ายมาเรียนศุกร์วันเดียว ในตอนนั้นที่นี่เค้าสอนแค่ระดับเบื้องต้น มี 4 ระดับ ระดับ 1-4 คือเข้ามาแล้วเรียนยาวเรยค่ะ เรียน 1-4 จบ! ซึ่งเราเริ่มเรียนตั้งแต่เดือน พ.ค.58 มาจนถึง ธ.ค.58 ระยะเวลาก็ 8 เดือน จำนวนชั่วโมงบินก็ 120 ชม.ได้ค่ะ จบตามเกณฑ์เค้า ได้ใบประกาศจากทางศูนย์เป็นที่เรียบร้อย เอาไปยื่นขอวีซ่าสมรส หรือจะไปยื่นอะไรก็แล้วแต่ค่ะ
ต่อมา.... ก่อนใกล้จบ เดือน ธ.ค. เค้ามีข่าวประกาศออกมาอีก ว่าจะทำการเปิดสอนระดับต้น-กลาง ขึ้นมา เราก็ดีใจมากค่ะที่เค้าเปิดคลาสต่ออีก....แต่ว่าก็มีปัญหาหนักใจอยู่ คือเราต้องทำการแย่งสมัครเรียนใหม่เหมือนครั้งก่อนอีก เราก็แอบเครียด จิตตกนิด กลัวไม่ได้เรียนอีก ไม่งั้นเราก็กลับไปเป็นเหมือนเดิม เรียนแล้วล่ม เพราะไม่ค่อยมีวินัยในการเรียนด้วยตัวเอง T..T
แล้วเวลที่เราจะเรียนต่อไปเป็น เวล 2 ซึ่งเค้าต้องการผลสอบ TOPIK กึบ 1 ก็โชคดีมากที่เราสอบ TOPIK เอาไว้เมื่อต.ค.ที่ผ่านมา แล้วก็ผ่านแบบคาบเส้นจิงๆ เราก็เรยแอบคิดๆ ว่าน่าจะยังพอมีหวัง ที่จะลองสมัครดู (รู้สึกจริงจังยังกะว่าจะสมัครขอทุน @..@")
พอถึงวันสมัคร เราขอลางานเรย เพื่อภารกิจนี้ เฮ่อๆ รีบๆสมัครให้ทันเวลา หลังจากนั้นก็รอลุ้น ประมาณ 1 อาทิตย์ได้ เค้าประกาศเร็วกว่าวันที่กำหนดไว้ พอเราเห็นรายชื่อห้อง ก็ดีใจปรี๊ดแตก ว่าชั้นได้เรียนอีกแล้วววว ดีใจจนไม่รู้จะแสดงท่ายังไงแร่ ^^"
หลังจากนั้น เราก็รีบไปลงทะเบียนชำระค่าเรียนก่อนเปิดเรียน ถ้าไม่ไปตามที่กำหนด กลัวเค้าตัดสิทธิ์เรา งัยก็ต้องทำตามกฏกติกาทางศูนย์ค่ะ แล้วก็สำหรับปีนี้เริ่มเก็บค่าเรียนแล้วค่ะ แต่ก็ไม่ได้สูงมากมายอาไร ถ้าเอามาคิดคำนวณดูแล้ว ค่าเรียนที่นี่ก็ยังถูกมากๆๆๆๆๆ จริงๆค่ะ อย่าง Level 2 เราต้องจ่าย 3,300 บาท เรียน 150 ชม. เป็นเวลา 6 เดือน ลองคิดดู ถ้าไปเรียนที่สถาบันอื่นๆ 30 ชม. นี่ค่าเรียนปาไป 3,500-4,500 แล้ว ถ้าเรียนตั้ง 150 ชม.นี่คงจ่ายประมาณ 20,000 บาทได้ เราคงท้อไม่เรียนแล้วค่ะ ขอดำน้ำอ่านทวีต ฟังเพลงไปเรื่อยๆ ดีกว่า ไม่่มีเงินขนาดนั้นนนน +..+
แล้วอีกอย่างนึง ปี 2016 นี้ รู้สึกว่าทางศูนย์ฯ ก็มีการเปลี่ยนแปลงปรับปรุงเยอะค่ะ ไหนจะตำราเรียน ก็เปลี่ยนหมด เปลี่ยนมาใช้ของ ม.อีฮวา (ฉบับจริง) แทน แต่เป็นเล่มผลิด Ver. ไทยนะค่ะ ไม่มี CD อ่ะ น่าเสียดาย... ได้หนังสือมา 2 เล่ม คือ 2-1 กะ 2-2 แล้วก็ซื้อ WB 2-1 ต่างหากอีก 250 บาท (Update 23/6/16 ซื้อ WB 2-2 เพิ่มอีกทีหลัง อีก 250 บาท) ซึ่งรวมค่าใช้จ่ายที่เสียไปทั้งหมดก็ 3,800 สำหรับการเรียน Level 2 นี้ ^^ นอกนั้นก็มีการปฐมนิเทศน์ค่ะ ที่เราเกริ่นๆ ไว้ข้างบน ปีนี้จัดครั้งแรกเรยก็ว่าได้ เรยได้เห็นเหล่านักเรียนทั้งหลายคลาสมารวมตัวกันเยอะมาก เกือบ 200 คนได้
กะว่าจะเล่าเรื่องการเรียนการสอนที่นี่ต่อให้จบ แต่เห็นท่าบล็อกน่าจะยาวมากไป เด๋วขอไปเล่าต่อบล็อคถัดไปหล่ะกัน ^ㅂ^
Links :
Korean Cultural Center in Thailand
Korean Education Center in Thailand
บรรยากาศ วันปฐมนิเทศน์ ☺ |
มาที่ศูนย์เกาหลีศึกษา หรือ KEC ที่เรากำลังเรียนภาษาที่นี่อยู่ อันนี้เราขอเล่าที่มาที่ไปยาวๆ หน่อย คือเมื่อประมาณ พ.ค.58 เราได้เข้าเรียนภาษาเกาหลีที่ศูนย์แห่งนี้ แต่ก่อนหน้าที่จะได้เรียน คือช่วงนั้นเราอยากเรียนภาษาญี่ปุ่นมากๆ แต่ก็ไม่ค่อยมีเงิน เรียนเองแล้วไปไม่รอด ไม่มีวินัย เรียนๆหยุดๆ ก็เลยเบื่อตัวเอง อยากไปเรียนตามโรงเรียน สถาบันมีครูสอนดีกว่า ก็เรยพยายามมองหาค่าเรียนถูกๆ แต่ไปๆมาๆมาเห็นข่าวว่ามีที่นี่เรียนเกาหลีฟรี แต่เสียค่าหนังสือเล็กน้อยประมาณ 500 บาท เราก็เกิดอยากเรียนขึ้นมาด้วยซะงั้น ที่นี้ก็เรยตัดสินใจลองสมัครเรียนเกาหลีที่ KEC ดู ถ้าได้ก็จะเรียนอยู่ เมื่อก่อนก็เคยคิดอยากเรียนภาษาเกาหลีด้วยเหมือนกัน เพราะชอบฟังเพลงมานานหลายปี ตามทวิตเตอร์โอปป้า แต่ก็ไม่รู้ว่าเค้าพูดไร ใช้กูเกิ้ลแปลตล๊อดๆ =..="
ซึ่งที่นี่เอง เรื่องการรับสมัคร เค้าก็มีกฎกติกาที่รับสมัครไม่ค่อยจาเหมือนที่ไหนนัก เพราะว่าเค้าสอนภาษาเกาหลีเบื้องต้น ฟรี! ฉะนั้นเค้าจึงมีกติกาไว้ว่า "มาก่อนได้ก่อน " คือต้องส่งใบสมัครทางออนไลน์เท่านั้นค่ะ! ตามลิงค์ที่เค้าแปะไว้หน้าเฟซ แล้วใครส่งใบสมัครได้เร็วกว่าตามช่วงเวลาที่กำหนด คุณก็อาจเป็นผู้โชคดีที่จะได้เรียนกะที่นี่!
และอีกอย่างนึงที่เราว่าก็สำคัญ สำหรับสาวๆ ที่อยากไปเป็นสะใภ้คนเกาหลี อาจจะมีความลำบากในการยื่นเอกสารขอพำนักอยู่กะแฟนที่โน้น ที่นี้ถ้าเราเรียนจบจากที่นี่ เราก็จะได้ใบประกาศที่สามารถนำไปให้ใช้ยื่นประกอบขอวีซ่าสมรส ไปอยู่เกาหลีได้ คนก็เรยสมัครกันมาเยอะมาก เพื่อที่จะให้ได้เรียน ไม่ว่าจะด้วยจุดประสงค์อาไรก็ตาม
พอมาถึงช่วงเค้าประกาศชื่อผู้มีสิทธิ์ได้เรียนทางเฟจ เราก็แบบกรี้ดๆๆๆ ดีใจสุดๆ ที่มีชื่อเราด้วย มันตื่นเต้นไปหมด เรียกว่าดีใจหนักมากกกกก็ว่าได้.... ^..^
หลังจากนั้นเริ่มเปิดเรียน เรามีเรียนทุกวันจันทร์กะพุธ หลังเลิกงาน แต่พอคลาส 4 ย้ายมาเรียนศุกร์วันเดียว ในตอนนั้นที่นี่เค้าสอนแค่ระดับเบื้องต้น มี 4 ระดับ ระดับ 1-4 คือเข้ามาแล้วเรียนยาวเรยค่ะ เรียน 1-4 จบ! ซึ่งเราเริ่มเรียนตั้งแต่เดือน พ.ค.58 มาจนถึง ธ.ค.58 ระยะเวลาก็ 8 เดือน จำนวนชั่วโมงบินก็ 120 ชม.ได้ค่ะ จบตามเกณฑ์เค้า ได้ใบประกาศจากทางศูนย์เป็นที่เรียบร้อย เอาไปยื่นขอวีซ่าสมรส หรือจะไปยื่นอะไรก็แล้วแต่ค่ะ
ตำราที่ใช้เรียน ☺ |
แล้วเวลที่เราจะเรียนต่อไปเป็น เวล 2 ซึ่งเค้าต้องการผลสอบ TOPIK กึบ 1 ก็โชคดีมากที่เราสอบ TOPIK เอาไว้เมื่อต.ค.ที่ผ่านมา แล้วก็ผ่านแบบคาบเส้นจิงๆ เราก็เรยแอบคิดๆ ว่าน่าจะยังพอมีหวัง ที่จะลองสมัครดู (รู้สึกจริงจังยังกะว่าจะสมัครขอทุน @..@")
พอถึงวันสมัคร เราขอลางานเรย เพื่อภารกิจนี้ เฮ่อๆ รีบๆสมัครให้ทันเวลา หลังจากนั้นก็รอลุ้น ประมาณ 1 อาทิตย์ได้ เค้าประกาศเร็วกว่าวันที่กำหนดไว้ พอเราเห็นรายชื่อห้อง ก็ดีใจปรี๊ดแตก ว่าชั้นได้เรียนอีกแล้วววว ดีใจจนไม่รู้จะแสดงท่ายังไงแร่ ^^"
หลังจากนั้น เราก็รีบไปลงทะเบียนชำระค่าเรียนก่อนเปิดเรียน ถ้าไม่ไปตามที่กำหนด กลัวเค้าตัดสิทธิ์เรา งัยก็ต้องทำตามกฏกติกาทางศูนย์ค่ะ แล้วก็สำหรับปีนี้เริ่มเก็บค่าเรียนแล้วค่ะ แต่ก็ไม่ได้สูงมากมายอาไร ถ้าเอามาคิดคำนวณดูแล้ว ค่าเรียนที่นี่ก็ยังถูกมากๆๆๆๆๆ จริงๆค่ะ อย่าง Level 2 เราต้องจ่าย 3,300 บาท เรียน 150 ชม. เป็นเวลา 6 เดือน ลองคิดดู ถ้าไปเรียนที่สถาบันอื่นๆ 30 ชม. นี่ค่าเรียนปาไป 3,500-4,500 แล้ว ถ้าเรียนตั้ง 150 ชม.นี่คงจ่ายประมาณ 20,000 บาทได้ เราคงท้อไม่เรียนแล้วค่ะ ขอดำน้ำอ่านทวีต ฟังเพลงไปเรื่อยๆ ดีกว่า ไม่่มีเงินขนาดนั้นนนน +..+
แล้วอีกอย่างนึง ปี 2016 นี้ รู้สึกว่าทางศูนย์ฯ ก็มีการเปลี่ยนแปลงปรับปรุงเยอะค่ะ ไหนจะตำราเรียน ก็เปลี่ยนหมด เปลี่ยนมาใช้ของ ม.อีฮวา (ฉบับจริง) แทน แต่เป็นเล่มผลิด Ver. ไทยนะค่ะ ไม่มี CD อ่ะ น่าเสียดาย... ได้หนังสือมา 2 เล่ม คือ 2-1 กะ 2-2 แล้วก็ซื้อ WB 2-1 ต่างหากอีก 250 บาท (Update 23/6/16 ซื้อ WB 2-2 เพิ่มอีกทีหลัง อีก 250 บาท) ซึ่งรวมค่าใช้จ่ายที่เสียไปทั้งหมดก็ 3,800 สำหรับการเรียน Level 2 นี้ ^^ นอกนั้นก็มีการปฐมนิเทศน์ค่ะ ที่เราเกริ่นๆ ไว้ข้างบน ปีนี้จัดครั้งแรกเรยก็ว่าได้ เรยได้เห็นเหล่านักเรียนทั้งหลายคลาสมารวมตัวกันเยอะมาก เกือบ 200 คนได้
กะว่าจะเล่าเรื่องการเรียนการสอนที่นี่ต่อให้จบ แต่เห็นท่าบล็อกน่าจะยาวมากไป เด๋วขอไปเล่าต่อบล็อคถัดไปหล่ะกัน ^ㅂ^
Links :
Korean Cultural Center in Thailand
Korean Education Center in Thailand
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)