หน้าเว็บ

12.10.2557

[บันทึก] สอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่น JLPT N5

สวัสดีค่ะ ^^

ไม่ได้มาอัพบล็อคนานเช่นเคย ยิ่งตอนนี้คอมพังแร่ ยิ่งไม่ได้เล่นเข้าไปใหย่ ร้านเน็ทแถวบ้านก็ไม่มี เรยใช้แต่มือถือเล่นเน็ตแทน ลำบากแฮะ.... =..="

มาเข้าเรื่องเรยหล่ะกัน ที่มาเขียนบล็อกนี้ คือเราอยากจะบันทึกแบ่งปัน เรื่องที่ไปสอบวัดระดับญี่ปุ่นมา จะได้แชร์เป็นข้อมูลแก่คนที่สนใจค่ะ

ก่อนอื่นแนะนำเกี่ยวกับ การสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่นคร่าวๆ นิดนึง เผื่อใครยังไม่รู้จัก

การสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่น (The Japanese-Language Proficiency Test ) หรือเรียกสั้นๆ ว่า JLPT

การสอบ JLPT ก็คล้ายๆกะสอบ TOEIC, HSK ของจีน, TOPIK ของเกาหลีประมาณนั้น

การสอบจัดขึ้นปีละ 2 ครั้งประมาณเดือน กรกฎาคม กับ ต้นเดือนธันวาคม และการสอบ JLPT นั้นมีแบ่งสอบเป็น 5 ระดับ ตั้งแต่ ระดับ N5 (ต่ำสุด) ไล่ไปถึง ระดับ N1 (สูงสุด) ซึ่งเมื่อเราสามารถสอบผ่าน JLPT เราจาได้รับใบประกาศนียบัตรจากญี่ปุ่น อ่อ สอบไม่ผ่านก็ได้รับใบเหมือนกัน เราสามารถเอาใบประกาศที่ผ่านนี้ไปใช้ยื่นสมัครเรียนในโรงเรียน มหาลัยญี่ปุ่น หรือสมัครงานบริษัทญี่ปุ่นได้ ตามระดับที่เค้ากำหนดไว้ค่ะ ก็ประมาณนี้ :)
หน้าตาชุดใบสมัครสอบ ปี 2014

ไหนๆแล้ว ขอเล่าประวัติตัวเองคร่าวๆหน่อยหล่ะกัน เราเคยเรียนภาษาญี่ปุ่นเมื่อสิบปีก่อน (บ่งบอกถึงความแก่ =...=) ในตอนนั้นเรียนจบชั้นต้นค่ะ ก็ใช้เวลานานเกือบ 2 ปีได้ แต่ถ้านับชม.เรียนจิงๆ ก็ไม่เท่าไหร่หรอกค่ะ หลังจากเรียนจบเราเองก็ไม่ได้เรียนต่อชั้นต่อไป แล้วก็ไม่ได้ฝึกฝนทบทวน จนเวลาผ่านไป ทีนี้มันก็เรยเหลือ 0 หมด

พอทำงานผ่านมาหลายปี อายุก็มากขี้น ชีวิตก็น่าเบื่อกับภาระต่างๆนานา เราเริ่มรู้สึกอยากกลับไปพัฒนาตัวเอง เรื่องภาษาที่มันถดถอยลงสวนกระแสกะอายุ  ซึ่งเรามั่นใจว่า เราถนัดไปทางภาษามากกว่าให้ไปวาดรูปศิลปะ หรือทำอาหารซะอีก แม้ว่าจะไม่ได้เก่งจิงจังอะไรก็เหอะ แต่ให้เรียนก็เรียนได้ เราชอบฟังเพลงต่างประเทศ ดูข่าว หนัง วาไรตี้ต่างประเทศบ้าง ดังนั้นเราเรยตัดสินใจอีกครั้ง กลับไปเรียนภาษาใหม่หมด โดยไปเริ่มเรียนภาษาอังกฤษก่อนเรย จากนั้นก็ไปเรียนจีน ชีวิตเริ่มสนุกขึ้นค่ะ เหมือนเราได้ออกไปเปิดโลกทัศน์ใหม่ รู้จักเพื่อนมากขึ้น ได้กลับไปเป็นเด็กนั่งเรียนหนังสืออีกครั้ง เรารู้สึกว่าตัวเองมีความสุขมากขึ้น เรยพลอยทำให้เรามีกำลังใจเพิ่มที่จะพยายามฝึกฝนทักษะภาษาตัวเอง

แล้วทีนี่เราก็เริ่มกลับมาหาภาษาญี่ปุนอีกครั้งแร่ หาเพลงฟัง หาซีรี่ย์ดู จนเริ่มจะติดงอมแงม ขอเบรกเกาหลีซักพัก (เสพสื่อเกาหลีมาเยอะแร่) เรยตัดสินใจไปสมัครสอบวัดระดับซะ จะได้เป็นตัวกระตุ้นให้เราอยากเรียน ก็เลือกระดับล่างสุดก่อน คือ N5 หลังสมัครสอบเสร็จ ก็มีเวลาให้อ่านเตรียมตัวอยู่หลายเดือน เราอ่านเองค่ะ ใจจริงอยากเข้าคอร์สแต่เงินไม่เอื้อ เรยพยายามเรียนด้วยตัวเองดูก่อน ก็วางแผน เลือกหนังสืออ่านเตรียมสอบ หาแนวข้อสอบนู้นนี่นั่น จะต้องอ่านวันล่ะเท่าไหร่ให้จบทันสอบ แต่!!!!ลงมืออ่านจริงนี่ไม่กี่วันดีกว่ามั้ง =...=" เพราะแบ่งเวลาไม่ได้เรยค่ะ งานที่ทำก็เยอะขึ้น มีไปเรียนอังกฤษ กะจีนอีก ถึงบ้านก็เหนื่อยหมดแรง เลยต้องมาอ่านหนังสือแบบกระชั้นชิดมาก ตอนที่อ่านนี่ใช้ความพยายามสุดๆทั้งจำทั้งต้องเข้าใจให้ได้อีก เหนื่อยเบย....

จนกระทั่งมาถึง..

ณ วันสอบ วันอาทิตย์ที่ 7 ธันวาคม 2014..

N5 สอบช่วงเช้าค่ะ ก็ไปสอบที่ตึกบรมราชกุมารี คณะอักษร ของจุฬา เกือบไปไม่ทันแน่ะ เพราะหลงไปอีกที่ T^T โชคดีมอไซต์รับจ้างวิ่งผ่านมาเรยใช้บริการซะ ก็มาถึงคณะทันเวลา เอิ่ม..ทีหลังจะเรียกมอไซต์ไปส่งดีกว่า ㅡ...ㅡ

เข้าห้องสอบ..

ถ้าจะให้ดี แนะนำเรยว่า **ก่อนมาสอบให้เช็คห้องสอบจากในเน็ตก่อน จะดีมากค่ะ เพราะคนเยอะมากจะดูบอร์ดที่นั่นลำบาก แล้วก็เสียงดังมั๊กๆด้วย มีแต่เด็กนักเรียนเตร็มไปหมด พอมาถึงจะได้เดินขึ้นชั้นไปห้องสอบได้เรย**
☆ก่อนเข้าห้องจะมีเจ้าหน้าที่ยืนตรวจเช็คบัตรสอบกับบัตรประชาชนก่อน  เตรียมให้พร้อม *เอากระเป๋าเข้าไปได้ค่ะ ห้องที่เราสอบนี่ เอามาวางข้างโต๊ะได้ค่ะ บางห้องใหญ่ๆ เค้าให้เอาวางไว้หน้าห้อง
☆หลังจากได้เข้าห้องสอบ ดูที่กระดานเค้าเขียนไล่เลขที่นั่งไว้เรย ว่าเรานั่งตรงไหน
☆ที่โต๊ะนั่งจะแปะสติ๊กเกอร์เลขเราไว้ ไม่ต้องกลัวนั่งผิด
☆บนโต๊ะจะมีกระดาษคำตอบ 1 ชุด กะข้อสอบ Part 1 วางไว้ เจ้าหน้าที่ก็แนะนำว่าต้องทำอะไรบ้าง ก่อนอื่นก็ให้เรากรอกชื่อ ฝนรหัสของเราลงในกระดาษคำตอบทั้ง 3 ใบให้เรียบร้อย ด้วยดินสอค่ะ ใช้ดินสอเท่านั้นนะค่ะ เค้าไม่ให้ใช้ปากกาเรย (แต่ก็มีคนทำผิด เพราะเข้ามาช้า เรยไม่ทันฟังคำแนะนำ) ก็ต้องเอาดินสอเขียนทับลงไป เค้าไม่มีสำรองให้นะ แล้วก็เขียนชื่อ รหัสลงในชุดข้อสอบด้วย ใช้ดินสอเช่นกัน

เริ่มสอบ..

หลังจากเจ้าหน้าที่ให้สัญญาณ เริ่มสอบได้ ก็เปิดกระดาษรีบทำ part 1 นี่ เกี่ยวกับคำศัพท์ คันจิ ให้เวลาสอบ 25 นาที ข้อสอบ 35 ข้อมั๊ง จำไม่ได้แร่ ดูคำถามปุ๊บต้องฝนคำตอบไปเรยค่ะ คิดนานไม่ได้ ไม่งั้นไม่ทัน พาร์ทนี้เราว่าไม่ยากน่ะ แต่เราว่าเราทำได้ครึ่งต่อครึ่งค่ะ เพราะเตรียมตัวท่องศัพท์มาน้อยก็เรยตามนั้น ㅜㅡㅜ รู้สึกเสียดายมว๊าก

--แนะนำ-- ท่องศัพท์ ให้เยอะ จำให้แม่น ทั้งฮิรากะนะและคาตากะนะ ที่จำได้มีพวกคำศัพท์ ทิศทาง ลิฟท์ วัน เดือน ปี เวลา การนับ คำลัษณะนาม คำบอกตำแหน่ง คันจิเบื้องต้นไม่ยากค่ะ เราแทบอ่านผ่านตาเรย เหมือนมันได้มาจากตอนที่เราอ่านหนังสือ ดูรูปประโยคเราก็จำมาเรย ก็พอได้

พอหมดเวลาเค้าก็ให้ออกมารอข้างนอก ประมาณ 25 นาที เราเลยรีบไปเข้าห้องน้ำก่อน คนเยอะห้องน้ำมีไม่กี่ห้อง ต้องรอคิวนานเรย ออกมาได้แป๊บห้องสอบก็เปิดให้เข้าพอดี

สอบ part 2

part นี้สอบเกี่ยวกับ ไวยากรณ์ และการอ่าน ใช้เวลาสอบ 50 นาที พาร์ทนี้ เราทำใจไว้เรยค่ะ อ่านมาน้อย เรยไม่คาดหวัง คิดว่าตัวเองไม่ผ่านแน่ ยิ่งมาเจอเรื่องใหอ่านตอบคำถาม ถึงกะเวียนหัว ไม่ค่อยรู้ศัพท์เรยเดาลำบาก สรุปทำไม่ได้เรยค่ะ ㅠㅡㅠ

--แนะนำ-- อยากบอกว่าจำอาไรแทบไม่ได้จิงๆ พอเริ่มสอบพาร์ทนี้ ความจำก็หายหม้ด เท่าที่พอนึกได้ ไวยากรณ์เบื้องต้นนี่ ตามในหนังสือ Minna อ่ะค่ะ การใช้คำแสดงคำถาม どんな การชี้ตำแหน่งคน สิ่งของ ここ, そこ การผันกริยา คุณศัพท์ คำช่วยต่างๆพวก は、に 、が 、で  ใช้ให้แม่นค่ะ มันจะมีคำถามประมานว่าไปโดยอะไร อย่างไร เจอทั้งในแกรมม่า แล้วก็ใน บทความค่ะ ที่จะเว้นช่องให้เราเลือกคำช่วยที่ถูกต้องใส่ลงไป มั่วตรงนี้เรยแหละ คือเจอข้อสอบแล้วเกิดอาการสับสนนึกอาไรไม่ออกจิงๆฝนมั่ว ส่วนบทความกลางๆ มี 2-3 อันมั้งจำไม่ได้ มีให้อ่านเมลเพื่อนที่เขียนส่งมา แล้วเลือกคำตอบตอนท้ายว่าเพื่อนจาพูดอะไร บทความยาวนี่ มี 1 อัน คือให้อ่านประกาศคลาสเรียนเต้น แล้วตอบให้ถูกว่าแม่ลูกคู่นี้จะเลือกเรียนวันไหน ดูจะไม่ยาก แต่มันต้องคิดตามด้วย เราก็ทำไม่ได้ไม่รู้ศัพท์บางตัว เรยจับใจความไม่ออก

แล้วก็หมดเวลา เริ่มมึนหัวแล้วค่ะ ก็ไม่ได้กินอาไรรองท้องเรย ดื่มแต่แบรนกะกาแฟมา เจอข้อสอบพาร์ทนี้ไป ถึงกะจาแย่ ก็รีบไปห้องน้ำอีกครั้ง คราวนี้ออกมาช้ากว่าเดิม คนเขาเข้าห้องสอบหมดแร่ เรางี้เข้าห้องเกือบคนสุดท้าย

สอบ part 3 สุดท้ายแล้ว

สอบเกี่ยวกับการฟังบทสนทนาง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน ประมาณ 30 นาที เจ้าหน้าที่จะเปิด CD คำถามให้ฟัง พอฟังจบแล้ว ต้องฝนคำตอบเรยค่ะ พอ CD จบ เค้าจะเก็บกระดาษคำตอบทันที และอีกอย่างเปิดให้ฟังครั้งเดียวเท่านั้นค่ะ และใน CD ก็พูดบทสนทนา คำถามครั้งเดียวด้วย ฉะนั้น ตอนฟังต้องตั้งใจฟังมากค่ะ พาร์ทฟังเราว่าไม่ยากมากน่ะค่ะ แต่ที่บอกไป เราศัพท์ในหัวน้อยก็เรยฟังจับใจความไม่ค่อยได้อย่างโจทย์จะมีคำถามว่า ชาย-หญิงคู่นี้เค้าซื้ออะไรมา ต้องฟังตามให้ทันดีๆ โจทย์จะมีหลอกว่า ทีแรกมีอันนี้น่ะฟังไปมาสรุปไม่ได้ซื้ออันนี้ เอาอันนั้นมา ก็งงเงิบๆไปหลาย บางข้อได้ยินไม่ชัด แอร์ดัง แหง่ว... ㅜ..ㅜ  คือสมาธิสำคัญหลุดไม่ได้ พอมาคำถามช่วงท้ายๆ จะเรียกว่าเหมือนคืนคะแนนให้ มันจะง่ายหน่อย ถามตอบแบบตรงๆไปเรยแบบมาเก็บคะแนนเอาช่วงท้ายแทน โจทย์จะถามประมาณว่านักเรียนเจอครูต้องพูดว่าอะไร ก็ต้องพูดทักทายกันอะไรอย่างงี้ ไม่ต้องคิดไร เราก็นึกได้แค่นี้แหล่ะ คือแบบสอบเสร็จออกมาทุกอย่างสลายสิ้นลืมหมด ราวกะว่าที่ผ่านมาไม่กี่ชม.เราทำอาไรฟร่ะ!!! @..@? พาร์ทนี้เราว่าน่าจะทำได้น้อย ช่วงแรกทำแทบไม่ได้ค่ะ มาได้ช่วงหลัง

--แนะนำ-- พาร์ทฟัง เราว่าสิ่งสำคัญคือ สมาธิเรยค่ะ ต้องตั้งใจแล้วหัวคุณต้องคิดเป็นภาพตามที่ได้ยิน ก็จะตอบได้ อ่อ รู้ศัพท์บ้างก็ดี เราว่าศัพท์พาร์ทนี้ไม่ยากแต่ก็คิดตามไม่ทัน มัวแต่แปลเปนไทยอยู่ในหัว จำพวกประโยคที่ใช้ในชีวิตประจำวันให้ได้ เช่น การทักทาย ขอโทษ ขอบคุณ นี่ก็ทำข้อหลังๆ ได้แล้วค่ะ

××××สรุปว่า××××
ที่ไปสอบมาวันนั้น เราทำข้อสอบไม่ได้เรย =_=" เตรียมตัวมาน้อยจิง ศัพท์ แกรมม่าก็ได้น้อย แต่ก็ไม่เป็นไร เราอยากมาลองสอบดูด้วย อยากเห็นความสามารถ ความพยายามของเราเองว่าจะได้แค่ไหน กะว่าปีหน้าจะสอบอีก อาจจะก้าวไป N4 เรย คิดไปไกลแร่ อย่างน้อยก็รู้สึกมั่นใจขึ้นมาบ้างนิดนึง ไม่รู้ทำไมเหมือนกัลล มีความสุขแบบบอกไม่ถูกแฮะ え。นี่เราเสียสติป่าวว่ะ.... ㅇ..ㅇ?

☆สำหรับใครที่สนใจ อยากลองสอบให้ติดตามข่าว ข้อมูลได้ที่นี่
- www.ojsat.or.th

ถ้ามีเวลาอีก เราอยากแนะนำหนังสือที่ใช้อ่านสอบให้ดู ตอนนี้แปะไว้รูปเดียวก่อน


ขอบคุณทุกคนที่แวะมาอ่าน เราอาจจะเล่าเยอะวนไปมาบ้าง เพราะจำไม่ค่อยได้ ก็อย่าว่ากันน่ะ  ^^" ถ้าใครอยากแนะนำ คอมเม้นก็ยินดีจ้า

ปล.ทิ้งท้าย เราพิมพ์จากในมือถือ เรยไม่ได้ตกแต่งตัวหนังสือในบล็อคให้เด่นซะเท่าไหร่ ดำหมดเรย~ T^T